ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) เปิดเผยเมื่อวันพุธ (19 มิ.ย.) ว่า ราคาอาหารสูงกำลังเป็นอุปสรรคต่อการลดลงของอัตราเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ความพยายามในการควบคุมราคาของ RBI ยังคงเป็น “งานที่ต้องดำเนินต่อไป”
RBI เตือนว่าราคาอาหารที่สูงขึ้นและผันผวนอาจทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มสูงขึ้น หลังจากที่ลดลงต่ำกว่ากรอบเป้าหมายชั่วคราวในไตรมาสที่สองของปีงบประมาณ 2567/2568
“ดังนั้น ความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ที่จะทำให้เงินเฟ้อทั่วไปสอดคล้องกับกรอบเป้าหมายอย่างยั่งยืนจึงจำเป็นต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิดถึงแรงกดดันด้านราคาอาหารที่ส่งผ่านมายังอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานและการคาดการณ์เงินเฟ้อ” RBI ระบุเสริม
ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อจากราคาค้าปลีกประจำปีในเดือนพ.ค. 2567 อยู่ที่ 4.75% ลดลงจาก 4.83% ในเดือนเม.ย. และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ 50 คนในผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ที่ 4.89% อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ประมาณ 3.12%
แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงเป็นเรื่องที่น่ากังวล แต่ RBI กล่าวว่าตัวชี้วัดความถี่สูงชี้ให้เห็นถึงแรงผลักดันอย่างต่อเนื่องในสภาวะอุปสงค์ภายในประเทศในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2567/2568
นอกจากนี้ RBI ยังคาดการณ์ว่าการเติบโตของ GDP จะรักษาระดับไว้ได้ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า เมื่ออ้างอิงจากดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจแล้วนั้น GDP ในไตรมาสแรกมีแนวโน้มที่จะอยู่ใกล้ระดับ 7.4% โดยข้อมูลจะเผยแพร่ในเดือนส.ค.นี้
RBI ยังระบุด้วยว่าแนวโน้มของภาคการเกษตรกำลังสดใสขึ้น โดยคาดว่าจะมีลมมรสุมทางตะวันตกเฉียงใต้มากกว่าปกติ
“นี่น่าจะส่งผลดีต่อการกระตุ้นอุปสงค์ในชนบท และจะช่วยสนับสนุนการบริโภคภาคเอกชน” RBI กล่าวเสริม
ก่อนหน้านี้ นายชัคติคานตา ดาส ผู้ว่าการ RBI กล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันอังคาร (18 มิ.ย.) ว่า อินเดียควรหลีกเลี่ยง “นโยบายสุ่มเสี่ยง” และมุ่งเน้นไปที่การลดอัตราเงินเฟ้อให้เข้าสู่กรอบเป้าหมายต่อไป แม้ว่าจะมีเสียงเรียกร้องให้ส่งสัญญาณการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินมากขึ้นก็ตาม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 มิ.ย. 67)
Tags: ธนาคารกลางอินเดีย, อินเดีย, เงินเฟ้อ, แบงก์ชาติอินเดีย