กระบี่บูม!! 9 สายการบินขอ slot ตารางบินฤดูหนาว 67/68

นายณรงค์ อรุณภาคมงคล ผู้อำนวยการกองส่งเสริมกิจการท่าอากาศยาน เป็นผู้แทนจากกรมท่าอากาศยาน พร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มจัดสรรเวลาท่าอากาศยาน เข้าร่วมการประชุมการจัดสรรเวลาของสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ ครั้งที่ 154 (154 nd IATA Slot Conference) (27 ตุลาคม 2567 – 29 มีนาคม 2568) ณ กรุงโบโกตา สาธารณรัฐโคลอมเบีย ระหว่างวันที่ 11 – 13 มิถุนายน 2567 เพื่อจัดสรรเวลาเที่ยวบินในกำหนดการบินประจำฤดูหนาว 2567/2568

โดยครั้งนี้ 9 สายการบิน ขอจัดสรรเวลาหรือขอปรับเปลี่ยนเวลาเข้า/ออก ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ ให้สอดคล้องกับการจัด Network และ Rotation ตามแผนของสายการบิน และสอบถามข้อมูลศักยภาพการพัฒนาขีดความสามารถในการรองรับเที่ยวบินของท่าอากาศยาน

ภายหลังจากการประชุมคณะผู้แทนจากกรมท่าอากาศยาน สามารถจัดสรรได้ตามเวลาที่สายการบินต้องการหรือเวลาที่ยอมรับได้ รวมทั้งนำเสนอข้อมูลแผนพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ที่จะดำเนินการในปี 2567 ให้สายการบินทราบความคืบหน้าในการพัฒนาขีดความสามารถในการรองรับเที่ยวบินเพิ่มมากขึ้น โดยข้อมูลการจัดสรรเวลาที่เสร็จสิ้นแล้วนั้น ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่สามารถนำไปใช้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับเที่ยวบินที่จะทำการบินมาในกำหนดการบินประจำฤดูหนาว 2567/2568 ทั้งในส่วนของความพร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวกของผู้โดยสารและสายการบิน ด้านบุคลากร และหน่วยงานเกี่ยวข้องภายในท่าอากาศยาน เพื่อให้การรองรับเที่ยวบินและผู้โดยสารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพรวม

โดยในการเข้าร่วมประชุมมีสายการบินขอเข้ารับการจัดสรรเวลา ดังนี้

 

  • สายการบินที่ขอปรับเปลี่ยนเวลาทำการบิน

– สายการบิน Flydubai (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) เส้นทางไป-กลับ ดูไบ-กระบี่

– สายการบิน Scoot Tigerair (สาธารณรัฐสิงคโปร์) เส้นทางไป-กลับ สิงคโปร์-กระบี่

– สายการบิน LOT Polish Airlines (สาธารณรัฐโปแลนด์) เส้นทางไป-กลับ วอร์ซอ-กระบี่

– สายการ TUI Fly (ราชอาณาจักรสวีเดน) เส้นทางไป-กลับ สต๊อกโฮล์ม-กระบี่

– สายการ Jetstar Asia Airways (สาธารณรัฐสิงคโปร์) เส้นทางไป-กลับ สิงคโปร์-กระบี่

– สายการบิน Thai AirAsia เส้นทางไป-กลับ เชียงใหม่-กระบี่

– สายการบิน Bangkok Airways เส้นทาง เชียงใหม่-กระบี่-กรุงเทพฯ

 

  • สายการบินที่ขอจัดสรรเวลา เข้า/ออก ณ ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ ในกำหนดการบินประจำฤดูหนาว 2567/2568

– เที่ยวบินประจำระหว่างประเทศ จำนวน 6 สายการบิน

1.สายการบิน AirAsia Berhad เส้นทางไป-กลับ กัวลาลัมเปอร์ – กระบี่ (จำนวน 21 เที่ยวบินต่อสัปดาห์)

2.สายการบิน Flydubai เส้นทางไป-กลับ ดูไบ – กระบี่ (จำนวน 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์)

3.สายการบิน Scoot Tigerair เส้นทางไป-กลับ สิงคโปร์ – กระบี่ (จำนวน 10 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ )

4. สายการบิน Jetstar Asia Airways เส้นทางไป-กลับ สิงคโปร์ – กระบี่ (จำนวน 6 เที่ยวบินต่อสัปดาห์)

5. สายการบิน Shanghai Airlines เส้นทางไป-กลับ เซี่ยงไฮ้ – กระบี่ (จำนวน 6- 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์)

6. สายการบิน China Eastern Airlines เส้นทางไป-กลับ อุรุมฉี – เหอเฟ่ย – กระบี่ (จำนวน 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์)

 

– เที่ยวบินเช่าเหมาระหว่างประเทศ จำนวน 3 สายการบิน

1. สายการบิน TUI fly – เส้นทางไป-กลับ สตอกโฮล์ม – กระบี่ (จำนวน 23 เที่ยวบิน)

– เส้นทางไป-กลับ โคเปนเฮเกน – กระบี่ (จำนวน 15 เที่ยวบิน)

– เส้นทางไป-กลับ เฮลซิงกิ – กระบี่ (จำนวน 14 เที่ยวบิน)

2. สายการบิน LOT Polish Airlines – เส้นทางไป-กลับ ปราก – กระบี่ (จำนวน 22 เที่ยวบิน)

– เส้นทางไป-กลับ วอร์ซอ – กระบี่ (จำนวน 14 เที่ยวบิน)

3. สายการบิน Neos Airlines (NEW) – เส้นทางไป-กลับ ปราก – กระบี่ (จำนวน 12 เที่ยวบิน)

 

นอกจากนี้ คณะผู้แทนของกรมท่าอากาศยานได้นำเสนอข้อมูลของท่าอากาศยานนานาชาติสุราษฎร์ธานีและท่าอากาศยานในสังกัดกรมท่าอากาศยาน เพื่อให้สายการบินนำข้อมูลไปพิจารณาในการจัดทำแผนการเปิดทำการบินในโอกาสต่อไป

โดยสายการบินที่มีการสอบถามข้อมูลท่าอากาศยานที่อยู่ในความดูแลของกรมท่าอากาศยานเพื่อนำไปทำแผนการทำการบิน

– สายการบิน Eastar Jet (สาธารณรัฐเกาหลี) สอบถามข้อมูลขีดความสามารถของท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่

– สายการบิน Spring Airlines (สาธารณรัฐประชาชนจีน) สอบถามข้อมูลของเพิ่มเติมของ ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ และท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี และท่าอากาศยานอุดรธานี

 

การเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก การได้พบปะกับสายการบินทำให้สามารถเสนอข้อมูลที่ตรงตามความต้องการ รวมถึงได้แลกเปลี่ยนข้อมูล และเชิญชวนสายการบินที่สนใจทำการบินกับท่าอากาศยานในสังกัดกรมท่าอากาศยาน รวมถึงได้นำข้อมูลข้อเสนอแนะของสายการบินมาปรับปรุงการดำเนินการและเตรียมความพร้อมในการวางแผนพัฒนาท่าอากาศยานอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเปิดเส้นทางบินใหม่ สายการบิน และเที่ยวบินที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 มิ.ย. 67)

Tags: , , , , ,
Back to Top