คอนเทนต์ครีเอเตอร์ (Content Creator) นับเป็นหนึ่งในอาชีพที่ได้รับความนิยมอย่างมากและมีความเชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย (Social Media) อย่างใกล้ชิด เพราะเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ที่สำคัญ นอกจากนี้ อาชีพนี้ยังเป็นเทรนด์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แต่การที่จะโลดแล่นให้ได้ในวงการ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะอัลกอริทึมและบทบาทของเอไอ (AI)
คุณขจร เจียรนัยพานิชย์ Editor in Chief, RAiNMaker และผู้จัดงาน iCreator Conference ได้มาไขคำตอบว่า เราจะเอาใจเอไอ พัฒนาคอนเทนต์และช่องอย่างไรให้เติบโตที่งาน CREATIVE TALK Conference 2024 ในหัวข้อ “Social Media Algorithm & Creator Landscape 2024-2025”
คุณขจรได้กล่าวถึงภาพรวมของวงการครีเอเตอร์ในปี 2024 ว่า เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เนื่องจากอัลกอริทึมของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ได้มีการปรับเปลี่ยน ขณะที่ความสนใจของผู้ใช้งานก็เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย จากสถิติในปีนี้พบว่า ติ๊กต๊อก (TikTok) กลายเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอที่ได้รับความนิยมสูงสุด แซงหน้ายูทูบ (YouTube) ซึ่งครองแชมป์ในปีที่แล้ว การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลให้คอนเทนต์ครีเอเตอร์ต้องดิ้นรนและปรับตัว เพื่อเอาชนะอุปสรรคและความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้
บก.บห.ของ RAiNMaker เปิดเผยว่า ประเภทของคอนเทนต์ที่เหล่าคอนเทนต์ครีเอเตอร์ไทยนิยมสร้างสรรค์นั้น มีทั้งหมวดเกมส์และอี-สปอร์ต (E-Sport) แฟชั่นและความงาม วีทูบเบอร์ (VTuber) อาหารการกิน ท่องเที่ยว รวมถึงการเงินและการลงทุน ในขณะที่หมวดคอนเทนต์อย่างรถยนต์ แม่และเด็ก สัตว์เลี้ยง และผู้สูงอายุ ยังไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก แต่มีเม็ดเงินในตลาดสูง ซึ่งถือเป็นแนวทางที่น่าสนใจสำหรับคอนเทนต์ครีเอเตอร์หน้าใหม่
อย่างไรก็ตาม การจะประกอบอาชีพคอนเทนต์ครีเอเตอร์เป็นอาชีพหลักนั้น จำเป็นต้องมีฐานผู้ติดตามที่แข็งแกร่ง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะต้องมีผู้ติดตามตั้งแต่ 500,000 คน ถึง 1 ล้านคนขึ้นไป จึงจะสามารถสร้างรายได้ที่เพียงพอได้อย่างมั่นคง รวมถึงต้องศึกษาเรียนรู้กลไกของอัลกอริทึมและเอไอ (AI) ของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ เพราะหากไม่เข้าใจแล้วก็เหมือนกับการเดินวนอยู่ในเขาวงกตที่หาทางออกไม่เจอเสียที
AI ครองโลก: อัลกอริทึมควบคุมคอนเทนต์
เมื่อเอไอเข้ามามีบทบาทเพิ่มขึ้น คุณขจรเสนอแนวคิดว่าให้ลองเปลี่ยมุมมองจากที่ว่าวันนี้เราเปิดหน้าไทม์ไลน์ไปจะเจอคอนเทนต์อะไร ให้ลองคิดว่าวันนี้ เอไอจะส่งอะไรขึ้นหน้าฟีดให้เราดูแทน โดยคุณขจรได้แบ่งกลไกของอัลกอริทึมออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
1. Social Media Algorithm: พบได้ใน Facebook, Instagram, Linkedin และ LineVoom การแชร์และการกระจายข้อมูลในโซเชียลมีเดียกลุ่มนี้จะมีกุญแจหลักมาจากคนหรือผู้ใช้งาน ประมาณ 85% ของข้อมูลจะมาจากการกดติดตามผู้อื่น ในขณะที่เอไอจะมีบทบาทเพียง 15% เท่านั้น ซึ่งก่อให้เกิดปรากฏการณ์ Echo Chamber ดังนั้น ผู้ใช้จะเห็นเพียงแค่คอนเทนต์ที่ตนเองคล้อยตามหรือเห็นด้วยเท่านั้น ก่อให้เกิดการแบ่งขั้วทางความคิดเป็น 2 ฝั่งตรงข้ามกัน จนกลายเป็นปัญหาทางสังคม โดยเฉพาะในประเด็นการเมือง
2. Recommendation Media Algorithm: พบได้ใน YouTube, Twitter และ TikTok ในกลุ่มนี้ เอไอมีบทบาทหลักในการคัดสรรและกระจายข้อมูล ส่วนหน้าที่ของผู้ใช้งานคือการรับชมคอนเทนต์เท่านั้น เช่น YouTube ที่จะแสดงคอนเทนต์ที่ได้รับการแนะนำจากเอไอถึง 50% ซึ่งจะมาจากช่องที่เราไม่ได้กดติดตาม หรือ TikTok ที่จะมีคอนเทนต์ที่มาจากการแนะนำของเอไอถึง 85% บนหน้า For You Page
จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มใด เอไอเข้ามามีบทบาทเข้ามาควบคุมการใช้งาน เพราะฉะนั้น คุณขจรจึงอธิบายหลักการทำงานของอัลกอริทึมของเอไอบนโซเชียลมีเดีย (Social Media AI) ที่จะมุ่งเน้นไปที่ 2 ส่วนหลักๆ ดังนี้
1. โครงสร้างของคอนเทนต์ (Content Structure): เอไอของอัลกอริทึมจะจับรายละเอียดทุกอย่างในคอนเทนต์ เพื่อใช้ในการค้นหาและจัดหมวดหมู่คอนเทนต์นั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นคำพูดที่แปลงเป็นข้อความ แคปชั่นของโพสต์ แฮชแท็กต่างๆ ความยาวของคลิปวิดีโอ หรือเพลงประกอบ ซึ่งจะนำพาผู้ใช้งานไปหาคอนเทนต์ที่ตรงกับความสนใจได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น
2. โครงสร้างของช่อง (Channel Structure): เอไอของอัลกอริทึมจะส่งคอนเทนต์แบบสุ่มมาให้ผู้ใช้งานดูก่อน เมื่อผู้ใช้งานแสดงให้เห็นว่าชอบช่องหรือคอนเทนต์ประเภทใด เอไอก็จะค้นหาช่องและคอนเทนต์ในรูปแบบเดียวกันมานำเสนอต่อไปอย่างเจาะจงมากยิ่งขึ้น ซึ่งโครงสร้างของช่องมีตั้งแต่ระดับกว้าง (Mass) สำหรับคอนเทนต์ทั่วไป เช่น สำนักข่าว ฯ ระดับกลาง (Mid-Level) สำหรับคอนเทนต์เฉพาะด้าน เช่น RAiNMaker ไปจนถึงระดับแคบ (Niche) ที่มุ่งเน้นเฉพาะกลุ่ม เช่น MacThai ที่มีข้อมูลข่าวสารของแบรนด์ Apple โดยเฉพาะ
ดังนั้น นอกจากการวางแผนผลิตคอนเทนต์แล้ว ควรคำนึงถึงโครงสร้างของคอนเทนต์และโครงสร้างของช่องตนเองด้วย เพื่อให้เอไอสามารถจับกลุ่มคอนเทนต์ได้อย่างถูกต้อง และนำไปสู่การนำเสนอคอนเทนต์ที่ตรงใจผู้ชม
5 ปัจจัยที่ AI จับตา
นอกเหนือจากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยในการนำเสนอคอนเทนต์อีกมากมายที่ AI คอยจับจ้องเราอยู่ ซึ่งคุณขจร ได้สรุปออกมาเป็น 5 ปัจจัย ดังนี้
1. Interest and Engagement: ความสนใจและการมีส่วนร่วม ทั้งการกดไลค์ หรือการแสดงความคิดเห็นจากผู้ติดตาม
2. Type of Content: รูปแบบคอนเทนต์ ซึ่งรูปแบบที่จะได้รับความนิยมจะแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์ภาพหรือวิดีโอ
3. Recency: ความสดใหม่และทันสมัยของคอนเทนต์ ซึ่งในแต่ละแพลตฟอร์มจะให้ความสำคัญมากน้อยแตกต่างกันไป
4. Past Performance: คุณภาพและผลตอบรับของคอนเทนต์ในอดีต หากเริ่มต้นดีแต่ผลงานก่อนหน้าไม่ดี ก็มีโอกาสที่จะได้รับการจัดอันดับต่ำ
5. Post Performance: ให้ความสำคัญกับทุกส่วนประกอบของแต่ละโพสต์ เช่น ความยาว คลิป เสียง คำพูด คำอธิบาย
ฮาวทู “จีบ AI”
อย่างที่กล่าวไปตอนต้นว่าอาชีพคอนเทนต์ครีเอเตอร์มีแนวโน้มว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ของอัลกอริทึมในแต่ละแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อให้ “ถูกใจเอไอ” ถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญอย่างมาก โดยคุณขจรได้เปรียบเทียบและยกตัวอย่างง่ายๆ ว่า ให้คิดว่า AI เป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่เราอยากจะเข้าไปจีบ โดยที่ตัวเราเองจะต้องมีคุณสมบัติดึงดูดใจ AI ดังนี้
มีเสน่ห์: มีคอนเทนต์ที่น่าสนใจ สามารถสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ติดตามได้ดี
รักเดียวใจเดียว: ไม่เชื่อมโยงแพลตฟอร์มต้นทางไปยังแพลตฟอร์มอื่น ๆ
เป็นคนชัดเจน: กำหนดหมวดหมู่เนื้อหาและโครงสร้างของช่องอย่างชัดเจน
ไม่โกหก: ปฏิบัติตามกฎระเบียบของแพลตฟอร์มอย่างเคร่งครัด ไม่ละเมิดกฎเกณฑ์ใด ๆ
สม่ำเสมอ: มีความสม่ำเสมอในการนำเสนอคอนเทนต์ รักษามาตรฐานและคุณภาพของคอนเทนต์ให้คงที่
สุดท้ายนี้ แม้ว่าเทคโนโลยีจะช่วยอำนวยความสะดวกในทุกด้านไม่ได้ แต่การทำความเข้าใจและการสร้างความผูกพันกับผู้ชม รวมทั้งการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ดีและมีคุณภาพ ก็เป็นอีกหัวใจสำคัญที่จะการันตีความสำเร็จในระยะยาว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 มิ.ย. 67)
Tags: Content Creator, RAiNMaker, ขจร เจียรนัยพานิชย์, คอนเทนต์ครีเอเตอร์, โซเชียลมีเดีย