ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0-0.1% ในการประชุมวันนี้ (14 มิ.ย.) แต่ได้ตัดสินใจปรับลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น โดย BOJ ระบุว่าจะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการลดการซื้อพันธบัตรในการประชุมเดือนก.ค. ซึ่งก่อนที่จะถึงเวลานั้น BOJ จะเดินหน้าซื้อพันธบัตรในระดับปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ประมาณ 6 ล้านล้านเยน (3.81 หมื่นล้านดอลลาร์) ต่อเดือน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า หลังเสร็จสิ้นประชุมในวันนี้ นายคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ ได้จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยกล่าวว่า “การที่ BOJ ตัดสินใจลดการซื้อพันธบัตรถือเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความยืดหยุ่น เพื่อให้มั่นใจว่าตลาดยังคงมีเสถียรภาพ ในขณะที่เราดำเนินนโยบายในรูปแบบที่สามารถคาดการณ์ได้ ส่วนขนาดในการปรับลดการซื้อพันธบัตรนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญด้วยเช่นกัน แต่ในการตัดสินใจเรื่องจังหวะ กรอบการดำเนินงาน และปริมาณที่เจาะจงนั้น จะขึ้นอยู่กับการหารือร่วมกับนักลงทุนในตลาด”
นายอุเอดะกล่าวถึงกล่าวถึงนโยบายการเงินว่า “”หากเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อร้อนแรงมากกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ ก็ถือเป็นเหตุผลที่ BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย”
ส่วนกรณีที่เงินเยนอ่อนค่าลงนั้น นายอุเอดะกล่าวว่า BOJ กำลังจับตาผลกระทบของการอ่อนค่าของเงินเยนที่มีต่อเงินเฟ้อ โดย BOJ จะดำเนินการอย่างเหมาะสมเพื่อตอบสนองความเคลื่อนไหวของเงินเยน และระบุว่า BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหากเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นสู่เป้าหมายของ BOJ ที่ระดับ 2%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 มิ.ย. 67)
Tags: BOJ, ญี่ปุ่น, ธนาคารกลางญี่ปุ่น, อัตราดอกเบี้ยนโยบาย, เงินเฟ้อ