บมจ. เอ็น.ดี.รับเบอร์ (NDR) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติแผนเพิ่มทุนจดทะเบียน โดยให้ลดทุนจดทะเบียนของบริษัท จากเดิม 433,614,392 บาท เป็น 346,891,630 บาท ด้วยการตัดหุ้นสามัญที่ยังมิได้ออกจำหน่าย 86,722,762 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท จากนั้นให้เพิ่มทุนจดทะเบียนแบบกำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้เงินทุน 110,000,000 บาท เป็น 456,891,630 บาท เพื่อรองรับการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทให้กับบุคคลในวงจำกัด (PP) คือ บริษัท EG Industries Berhad ราคาเสนอหุ้นละ 1.80 บาท
วัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุน และการใช้เงินทุนในส่วนที่เพิ่มบริษัทจะนำเงินไปใช้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท เพื่อรองรับการดำเนินงานของบริษัทในปัจจุบัน และเพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต
นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ NDR ระบุว่า EG Industries Berhad (EG) เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศมาเลเซีย ดำเนินธุรกิจอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งถือเป็นอันดับต้นๆของบริษัทในมาเลเซียในการให้บริการการผลิตอุปกรณ์และการออกแบบการผลิตด้วยโซลูชั่นแบบครบวงจรเต็มรูปแบบ และยังมีการดำเนินธุรกิจอยู่ในประเทศไทยและการนำส่งสินค้าให้กับผู้ผลิตอุปกรณ์ Electronic ที่เป็นระดับ International Brand รวมถึงผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค การแพทย์ ยานยนต์ และการสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งเชื่อมั่นว่า EG จะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งของบริษัทฯได้ในอนาคต
พร้อมกันนั้นที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทยังมีมติอนุมัติการจำหน่ายหุ้นของ บริษัท อีทราน (ไทยแลนด์) จำกัด (ETRAN) ที่บริษัทถืออยู่ 262,500 หุ้น หรือคิดเป็น 35% ของทุนจดทะเบียนของ ETRAN ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า มูลค่าการขาย 14,132,750 ล้านบาท ให้กับนักลงทุนนักลงทุนที่มีความสนใจ
และจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ คือ บริษัท เอ็กซ์โทรนิค จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีกลุ่มลูกค้าเป็นผู้ทำธุรกิจ 5G ซึ่งอยู่ในอุตสาหกรรมที่กำลังเป็นขาขึ้น ทั้งนี้คาดว่าบริษัทดังกล่าวจะเริ่มสร้างรายได้ในปี 2568 โดยจะมีกลุ่มลูกค้าจากผู้ถือหุ้นรายใหม่ และกลุ่ม Global 5G Equipment ทุนจดทะเบียน 66,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 66,000,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 1 บาท โดย NDR ถือหุ้น 99.99%
กรรมการผู้จัดการ NDR กล่าวอีกว่า แผนธุรกิจในปีนี้ บริษัทฯคาดผลการดำเนินงานน่าจะสามารถพลิกฟื้นกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้ โดยวางเป้ารายได้อยู่ที่ 900-950 ล้านบาท เนื่องจากการขยายพอร์ตสินค้า High Margin มากขึ้น ขณะที่ประเมินแนวโน้มในครึ่งปีแรกเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังคงติดตามความเสี่ยงเรื่องต้นทุนวัตถุดิบ โดยในไตรมาส 1/2567 ที่ผ่านมา บริษัทฯมีรายได้รวมอยู่ที่ 242.49 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4.35 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีเป้าหมายที่จะเป็น Holding Company เพื่อลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง เพื่อต่อยอดการเติบโตและสร้างการเติบโตให้กับบริษัทฯอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 มิ.ย. 67)
Tags: NDR, หุ้นไทย, เอ็น.ดี.รับเบอร์