สธ. หนุน Soft power ปั้น “10,000 หมอนวดมือทอง” ตั้งเป้าโกยรายได้แสนล้าน

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายยกระดับเศรษฐกิจสุขภาพ ต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น แพทย์แผนไทย สมุนไพร และผลิตภัณฑ์สุขภาพ สร้างงาน สร้างอาชีพ ภายใต้วิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ในการสนับสนุนการสร้างพลังสร้างสรรค์ (Soft power) ของประเทศ ตั้งเป้าให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลกด้านต่างๆ

โดยหนึ่งในนั้น คือ การเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์และสุขภาพ ด้วยการผลักดันอุตสาหกรรมสาธารณสุข ให้เป็นศูนย์ดูแลสุขภาพครบวงจรของโลก มีจุดเน้น 3 ด้าน คือ สนับสนุนการเปิดศูนย์ Wellness Center ในต่างประเทศ, การยกระดับด้วยการออกเอกสารรับรอง และมีกระบวนการตรวจสอบคุณภาพใบอนุญาต เพื่อปกป้องชื่อเสียง ซึ่งรัฐบาลได้ตั้งเป้ารายได้จากเศรษฐกิจสุขภาพด้านสมุนไพรและนวดไทยปีละมากกว่า 1 แสนล้านบาท ภายในปี 2570

“นวดไทย เป็นอัตลักษณ์ไทยที่เป็นที่รู้จักของนานาประเทศ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จึงได้มอบหมายให้กรมการแพทย์แผนไทยฯ ผลิตแรงงานด้านการนวดไทยที่มีมาตรฐาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่น เป็นหมอนวดมือทองที่มีประสิทธิภาพ ในการดึงเม็ดเงินในธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ สนับสนุนหน่วยบริการทั้งภาครัฐและเอกชน ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชน สร้างงาน สร้างอาชีพให้แก่ประชาชน และสร้างรายได้เข้าประเทศ” นายสันติกล่าว

ด้าน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า กรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้จัดทำโครงการสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มจากการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ด้วยการแพทย์แผนไทย การแพทย์ทางเลือกและสมุนไพร ซึ่งมีองค์ประกอบสำคัญ คือ

1) หลักสูตรนวดเพื่อสุขภาพที่ได้รับการรับรองแล้ว 17 หลักสูตร

2) สถานฝึกอบรมในประเทศ 412 แห่ง และต่างประเทศ 4 แห่ง

3) สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ที่ขึ้นทะเบียนในกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ 13,497 แห่งทั่วประเทศ

สำหรับการอบรมนวดไทยครั้งนี้ เป็นความร่วมมือกันระหว่างศูนย์ฝึกอบรมด้านการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก ในเครือข่ายของกรมฯ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี โรงพยาบาลพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี โรงพยาบาลวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว และสถาบันการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เพื่อสร้างแรงงานด้านการนวดไทยที่มีคุณภาพและมาตรฐาน ตั้งเป้าฝึกอบรมในประชาชนทั่วไป 10,000 คน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 มิ.ย. 67)

Tags: , , , ,
Back to Top