นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงฟุตบอลยูโร 2024 พบว่า ช่วงฟุตบอลยูโร ซึ่งเป็นการแข่งขันฟุตบอลระดับโลกในปีนี้ จะมีการใช้จ่ายเกิดขึ้นประมาณ 87,620 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.04% จากปี 65 โดยแบ่งเป็น การใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจ (ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคและสังสรรค์, ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์รับสัญญาณ และอื่นๆ) 20,575 ล้านบาท และการใช้จ่ายนอกระบบเศรษฐกิจ (พนันบอล) 67,044 ล้านบาท
“การใช้จ่ายในระบบทะลุ 20,600 ล้านบาท เป็นมูลค่าในระบบที่ดีที่สุด ตั้งแต่ฟุตบอลยูโรในปี 59 หรือดีสุดในรอบ 8 ปี แสดงว่าคนจะเริ่มกลับมาเชียร์บอลคึกคักปกติ โดยเงินหมุนเวียนนอกระบบนั้น สูงสุดตั้งแต่สำรวจมา หรือตั้งแต่ปี 51 หรือในรอบ 16 ปี ซึ่งส่วนใหญ่คือการพนัน”
นายธนวรรธน์ กล่าว
ด้านนางอุมากมล สุนทรสุรัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวว่า จากการสำรวจการติดตาม ดู/ ฟัง/ รับข่าวสารฟุตบอล พบว่า 66.4% มีการติดตาม ขณะที่ 33.6% ไม่ติดตาม โดยช่องทางในการรับชม/ ติดตามส่วนใหญ่ 40.3% ผ่านโทรทัศน์ รองลงมาอีก 31.8% ผ่านสตรีมมิงเว็บไซต์ (เช่น Youtube และ Facebook) และ 16.5% สตรีมมิงออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันมือถือ โดยสถานที่ที่จะรับชม/ ฟังถ่ายทอดสดอันดับ 1 คือที่บ้าน สัดส่วนสูงถึง 65.9%
สำหรับทีมที่เชียร์อันดับ 1 คือ อังกฤษ รองลงมาคือ เยอรมัน และฝรั่งเศส ตามลำดับ ส่วนทีมที่คาดว่าจะได้แชมป์ คือ อังกฤษ รองลงมาคือ ฝรั่งเศส และสเปน ตามลำดับ
ส่วนการใช้จ่ายช่วงฟุตบอลยูโร (เฉพาะผู้ที่ติดตาม) ส่วนใหญ่มีการใช้จ่ายในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น เช่น ใช้ซื้ออาหารและเครื่องดื่ม, การเดิมพันหรือพนัน, การซื้อสินค้าที่ระลึก, การติดตั้งสัญญาณดาวเทียม และกล่องสัญญาณอินเทอร์เน็ต เป็นต้น โดยแหล่งที่มาของเงินส่วนใหญ่บอกว่ามาจากรายได้/เงินเดือน 59% รองลงมา คือ มาจากเงินออม 32.7%
ในส่วนของพฤติกรรมการเล่นพนันบอลในช่วงฟุตบอลยูโร 2024 พบว่า เมื่อเทียบการพนันฟุตบอลยูโร 2024 กับช่วงบอลยูโรที่ผ่านมา กลุ่มตัวอย่างตอบว่า เพิ่มขึ้น 51% และเท่าเดิม 42.5% โดยรูปแบบในการเล่นพนันบอลส่วนใหญ่ คือ ใช้เงินสด รองลงมา คือ ใช้สิ่งของในการพนัน ส่วนสาเหตุสำคัญที่ทำให้มีการเล่นพนัน 47.1% ตอบว่าเพราะสนุก และอีก 44.7% บอกว่าเพราะรางวัล นอกจากนี้ ยังมองว่าการพนันฟุตบอลสามารถเข้าถึงได้ง่ายถึง 58.1% และอีก 40.5% บอกว่าเหมือนเดิม
นางอุมากมล กล่าวว่า สำหรับข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาการพนันบอล คือ เห็นด้วยมาก 73.5% ที่ควรจัดให้มีศูนย์ช่วยเหลือผู้ติดพนัน เห็นด้วยมาก 70.6% ที่ควรมีการบังคับใช้กฎหมายการพนันอย่างเข้มงวด และเห็นด้วยมาก 64.2% ควรให้ความรู้เกี่ยวกับโทษของการพนัน เป็นต้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 มิ.ย. 67)
