สถาบันสังคมวิทยานานาชาติเคียฟ (KIIS) เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ (7 มิ.ย.) โดยระบุว่า ความไว้วางใจของชาวยูเครนที่มีต่อนายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน นั้นลดลงต่ำกว่า 60% เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มรุกรานยูเครนเมื่อเดือนก.พ. 2565
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ปธน.เซเลนสกีเผชิญกับความท้าทายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นปฏิบัติการตีโต้กลับในช่วงฤดูร้อนที่ล้มเหลว ความเห็นที่แตกแยกในประเด็นการระดมพล รวมไปถึงข่าวฉาวเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่ระดับสูง
KIIS รายงานว่า ความไว้วางใจของประชาชนที่มีต่อผู้นำวัย 46 ปีรายนี้ เคยพุ่งสูงถึง 90% ในเดือนพ.ค. 2565 แต่กลับลดฮวบลงมาอยู่ที่ 59% ในเดือนพ.ค. 2567
“เราอยากจะชี้ให้เห็นว่า โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ยังคงมีความชอบธรรมในสายตาของสังคมยูเครน และชาวยูเครนส่วนใหญ่ก็ยังคงไว้วางใจตัวเขา” KIIS ระบุ
“อย่างไรก็ตาม แนวโน้มความไว้วางใจที่ลดลงอย่างต่อเนื่องนี้ก็เป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนจากผลสำรวจ และสาเหตุหลักของเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนยูเครนทั่วไปนั้น ก็มาจากนโยบายการแต่งตั้งบุคคลที่ไม่ประสบความสำเร็จเสมอไป รวมถึงปัญหาด้านความยุติธรรม (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของการต่อสู้กับการทุจริตคอร์รัปชัน และการแบ่งเบาภาระของสงครามด้วยความเป็นธรรม)” KIIS กล่าวเสริม
ทั้งนี้ วาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรกของนายเซเลนสกี ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในปี 2562 นั้น ได้สิ้นสุดลงไปเมื่อเดือนที่แล้ว แต่เขายังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปภายใต้กฎอัยการศึก
ปธน.เซเลนสกีเคยกล่าวเอาไว้เมื่อปีที่แล้วว่าเขา “พร้อม” ที่จะจัดการเลือกตั้งหากจำเป็น
แต่ทว่า ทางการกลับตัดสินใจที่จะไม่จัดการเลือกตั้ง โดยให้เหตุผลว่าประมาณ 20% ของประเทศนั้นอยู่ภายใต้การยึดครองของกองกำลังรัสเซีย และยังมีชาวยูเครนอีกหลายล้านคนที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 มิ.ย. 67)
Tags: ผลสำรวจ, ยูเครน, โพล, โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี