เงินบาทเปิด 36.48 แข็งค่าตามภูมิภาค หลังตัวเลขศก.สหรัฐกดดอลลาร์อ่อนค่า-ราคาทองหนุน

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เช้านี้เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 36.48 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 36.69 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเปิดแข็งค่าเทียบท้ายตลาด หลังจากที่เมื่อคืนนี้ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ค. ของสหรัฐฯ ออกมาแย่กว่าคาด ส่งผลให้เช้านี้ดอลลาร์อ่อนค่า เงินบาทและสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาคแข็งค่า ประกอบกับราคาทองคำเด้งขึ้นแรง จึงอาจมี Flow ฝั่งทองคำได้

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 36.40 – 36.65 บาท/ดอลลาร์ ปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้ คือ การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB)

*ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 155.65 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 156.00 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0889 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0868 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 36.595 บาท/ดอลลาร์
  • การเมืองไทยกลับมา ร้อนแรงเดือน มิ.ย. กระทบความเชื่อมั่น หลังต่างชาติเทขายต่อเนื่องทะลุ 84,000 ล้านบาท และขายติดต่อกัน 10 วันทำการ บล.ซีจีเอส หั่นเป้าดัชนีรอที่ 1,480 จุดมองความวุ่นวายการเมืองกดดันเศรษฐกิจ และมีโอกาสยุบพรรค
  • “กรุงไทย” เดินหน้าตั้ง “เวอร์ชวลแบงก์” เผยอยู่ระหว่างเตรียมพร้อมยื่น “ขอไลเซนส์” คาดยื่นได้ก่อนกำหนด “แบงก์ชาติ” ที่ปิดรับ 19 ก.ย.67 พร้อมย้ำ “พันธมิตร” ยังรายเดิม แต่ไม่ปิดโอกาส รับพันธมิตรใหม่ เชื่อธนาคารไร้สาขายังจำเป็นต่อระบบเศรษฐกิจนอกระบบ
  • หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินา คินภัทร (KKP) เปิดเผยว่า แนวโน้มภาพรวมตลาดตราสารหนี้ไทยของภาคเอกชนระยะยาวหรือหุ้นกู้ระยะยาว ในปี 2567 คาดการณ์จะมีการออกหุ้นกู้รวมประมาณ 900,000 ล้านบาท ถึง 1 ล้านล้านบาท ซึ่งชะลอตัวเล็กน้อย เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านๆ มา ที่มีการออกหุ้นกู้มีมูลค่าเกิน 800,000 ล้านบาท และสูงถึง 1.2 ล้านล้านบาท ซึ่งในไตรมาสแรกของปี 2567 มีการออกตราสารหนี้ มูลค่ารวม 207,000 ล้านบาท ถ้าเทียบกับช่วงเดียวกันกับปี 2563 ที่เกิดโควิด-19 ระบาดที่มีมูลค่าประมาณ 149,000 ล้านบาท และทั้งปี 2563 มีมูลค่ารวม 674,000 ล้านบาท ดังนั้น ถือว่าปีนี้ดีกว่า แต่น่าจะแย่กว่าปีทั่วไป เนื่องจากมีความกังวลอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูง รวมถึงความกังวลในตลาดด้วย ทำให้ตลาดตึงตัว ออกยากและมีการกลับไปใช้เงินกู้จากสถาบันการเงินมากขึ้น ขณะเดียวกันเริ่มเห็นสถาบันการเงินเริ่มปล่อยสินเชื่อขนาดใหญ่มากขึ้นเช่นกัน
  • นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า จีดีพีประเทศไทย ไตรมาสที่ 1 ปี 2567 เติบโต 1.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า สูงกว่าการคาดการณ์ของซิตี้แบงก์และนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ หากปรับปัจจัยฤดูกาลออก (Seasonally Adjusted) จีดีพีไตรมาสที่ผ่านมาเติบโตรายไตรมาสที่ 1.1% ปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่หดตัว 0.4% แม้นี่จะเป็นการยืนยันว่าประเทศไทยไม่เผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิค (Technical Recession) แต่การเติบโตของเศรษฐกิจยังคงอ่อนแอ โดยเติบโตน้อยกว่า 2.0% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY) ติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 4 และในแต่ละภาคส่วนมีการเติบโตที่ไม่สม่ำเสมอกัน
  • “เฟตต้า” เปิด 11 ข้อเสนอ สมุดปกขาว “ยกเครื่องท่องเที่ยวไทย” ยื่นรัฐบาล ชงจัดตั้งคณะทำงานร่วม หนุนตั้งกองทุนท่องเที่ยวยั่งยืนใช้บริหารจัดการภาวะวิกฤติด้านการท่องเที่ยวโดยตรง “ททท.” อ้อนของบกระตุ้น ทัวริสต์ต่างชาติ ดันยอด-เพิ่มวันพักช่วงครึ่งปีหลัง ผนึกพลังพันธมิตรเอกชนลุยอีเวนต์ โรดโชว์ โปรโมชัน สานเป้ารายได้รวม 3.5 ล้านล้าน
  • ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ (6 มิ.ย.) ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบ 5 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2562 บรรดานักลงทุนคาดว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในวันนี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2562
  • สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลงสู่ระดับ 8.06 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2564
  • ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ว่าการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 152,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 175,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 188,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย.
  • สหรัฐเปิดเผยข้อมูลแรงงานที่อ่อนแอลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าเฟดจะเริ่มพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 69% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 50% ในการสำรวจเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (5 มิ.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขภาคการบริการที่แข็งแกร่ง ส่วนยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้ (6 มิ.ย.)
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันพุธ (5 มิ.ย.) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลแรงงานที่อ่อนแอ
  • นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 มิ.ย. 67)

Tags: , ,
Back to Top