นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดรีบาวด์รับบอนด์ยีลด์ปรับลงหลังตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด สะท้อนภาคแรงงานชะลอ ส่งผลให้คาดหวังเฟดลดดอกเบี้ย ก.ย.นี้ ขณะที่เมื่อคืนราคาน้ำมันเริ่มฟื้นคาดหนุนตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน แต่ยังต้องติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศยังไม่แน่นอน ทั้งคดียุบพรรคก้าวไกล-คุณสมบัตินายกฯ โดยให้กรอบแนวรับ 1,330 จุดและแนวต้าน 1,345-1,350 จุด
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้าคาดรีบาวด์ตอบรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ปรับลง หลังจากตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่ตลาดคาด สะท้อนภาคแรงงานชะลอตัว ส่งผลให้นักลงทุนให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) น่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนก.ย.
ขณะที่เมื่อคืนนี้ราคาน้ำมันก็เริ่มฟื้นตัวขึ้นน่าจะเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน
อย่างไรก็ดี ประเด็นการเมืองในประเทศยังมีความไม่แน่นอนหลังเมื่อวานนี้ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาครั้งต่อไปในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้วินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกลในวันที่ 12 มิ.ย. ขณะที่พรรคก้าวไกลจะแถลงเปิดเผยแนวทางสู้คดีในวันที่ 9 มิ.ย. แต่ตอนนี้อาจจะยังไม่ได้มีผลต่อดัชนีมากนัก ยังต้องติดตามผลคำตัดสินต่อไป
นอกจากนั้น ยังต้องติดตามการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งจะมีผลต่อตลาดมากกว่าคดีของพรรคก้าวไกล
พร้อมทั้งให้กรอบแนวรับ 1,330 จุดและแนวต้าน 1,345-1,350 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (5 มิ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,807.33 จุด เพิ่มขึ้น 96.04 จุด หรือ +0.25%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,354.03 จุด เพิ่มขึ้น 62.69 จุด หรือ +1.18% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,187.90 จุด เพิ่มขึ้น 330.86 จุด หรือ +1.96%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 38,841.66 จุด เพิ่มขึ้น 351.49 จุด หรือ +0.91%, ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,069.44 จุด เพิ่มขึ้น 4.04 จุด หรือ 0.13% และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 18,577.58 จุด เพิ่มขึ้น 152.62 จุด หรือ + 0.82%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (5 มิ.ย.) 1,338.32 จุด เพิ่มขึ้น 1.00 จุด (+0.07%) มูลค่าการซื้อขาย 38,642.48 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 44.87 ล้านบาท (5 มิ.ย.)
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. (5 มิ.ย.) เพิ่มขึ้น 82 เซนต์ หรือ 1.12% ปิดที่ 74.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (5 มิ.ย.) อยู่ที่ 4.36 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 36.48 แข็งค่าตามภูมิภาค หลังตัวเลขศก.สหรัฐกดดอลลาร์อ่อนค่า-ราคาทองหนุน
- นายกฯ หารือ “คลัง” ถกมาตรการจัดเก็บภาษีหลังกู้เต็มเพดาน ขาดดุลพุ่ง 8 แสนล้าน เหลือช่องกู้ขาดดุลแค่ 1 หมื่นล้าน มั่นใจไตรมาส 4 เศรษฐกิจดีขึ้นมากแน่นอน พร้อมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “ปลัดคลัง” เผยนายกฯ ตามความคืบหน้าจัดเก็บรายได้ มั่นใจจัดเก็บรายได้ตามเป้า “เอกนิติ” แจงสรรพสามิตตั้งเป้าไว้สูง “คลัง” รีดภาษีมูลค่าเพิ่มสินค้านำเข้าต่ำกว่า 1,500 บาท สกัดสินค้าจีน
- “จุลพันธ์” ยันไม่หนักใจหลังกางยอด 7 เดือน จัดเก็บรายได้ภาครัฐวืดเป้าเฉียด 4 หมื่นล้านบาท รับคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว ชี้เป็นเอฟเฟกต์ลดภาษีน้ำมัน-อุ้มรถอีวี ระบุเป็นการช่วยเหลือประชาชน พร้อมปัดข่าวโยกอธิบดีกรมภาษีเซ่นผลงานอืด
- ภาคอสังหาริมทรัพย์ส่งสัญญาณ “เปราะบาง” มากขึ้น หลัง “ยอดปฏิเสธ สินเชื่อ” พุ่ง ด้าน “เสนา” ชี้ปัญหาเริ่มลามเข้าสู่ “กลุ่มตลาด ระดับบน” ระดับราคา 10-20 ล้านบาท สะท้อนผ่าน “ยอดรีเจกต์” เพิ่มเป็น 30% รับผลพวงเศรษฐกิจซบเซากระทบทุกกลุ่ม “กรุงไทย” รับเข้าโหมดระมัดระวังปล่อยกู้กลุ่มเปราะบาง รายได้น้อย ย้ำต้องไม่เร่ง เพิ่มภาระหนี้ให้ผู้กู้จนเกิดปัญหาเพิ่ม
- “เฟตต้า” เปิด 11 ข้อเสนอ สมุดปกขาว “ยกเครื่องท่องเที่ยวไทย” ยื่นรัฐบาล ชงจัดตั้งคณะทำงานร่วม หนุนตั้งกองทุนท่องเที่ยวยั่งยืนใช้บริหารจัดการภาวะวิกฤติด้านการท่องเที่ยวโดยตรง “ททท.” อ้อนของบกระตุ้น ทัวริสต์ต่างชาติ ดันยอด-เพิ่มวันพักช่วงครึ่งปีหลัง ผนึกพลังพันธมิตรเอกชนลุยอีเวนต์ โรดโชว์ โปรโมชัน สานเป้ารายได้รวม 3.5 ล้านล้าน
- กกร.หวั่นส่งออกไทยพลาดเป้าจากที่ตั้งไว้โต 0.5-1.5% หลังเผชิญปัญหารอบด้านทั้งเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนที่รุนแรง ขึ้นค่าแรง 400 บาท และราคาน้ำมันดีเซลขยับขึ้น ทำให้ต้นทุนสินค้าพุ่งกำลังซื้อในประเทศหด จี้ภาครัฐหามาตรการสนับสนุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของภาคส่งออก และส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด แย้มต้นปีนี้พบโรงงานปิดตัวแล้ว 1.6-1.7 พันแห่งแล้ว
- “เผ่าภูมิ” รมช.คลัง แย้มกำลังศึกษาแผนกระตุ้นตลาดหุ้นไทยคาดไม่เกิน 2 สัปดาห์ชัดเจน เคลียร์ชัด “เงินดิจิทัลวอลเล็ต” จ่ายพร้อมกัน-เท่ากันทุกกลุ่ม ขณะที่ กกร.ชี้ส่งออกไทยปีนี้ไม่สวย สหรัฐฯ-จีนเปิดศึกการค้ารุนแรงขึ้น แนะรัฐเร่งหามาตรการช่วย ฟากผู้ประกอบการขนส่งฯ จ่อพบรัฐสัปดาห์หน้าหวังช่วยตรึงราคาน้ำมัน
*หุ้นเด่นวันนี้
- วันนี้ตลาดหลักทรัพย์ mai รับ บมจ. ชูวิทย์ฟาร์ม (2019) เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารวันแรก ชื่อย่อ CFARM ราคา IPO หุ้นละ 1.35 บาท ดำเนินธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อให้กับคู่สัญญาชั้นนำของไทยในรูปแบบเกษตรพันธสัญญาแบบประกันราคา มีฟาร์มเลี้ยงไก่ 8 ฟาร์ม 121 โรงเรือน ตั้งอยู่ใน 4 อำเภอ เขตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ บริษัทลงทุนโรงเรือนและอุปกรณ์การเลี้ยงตามมาตรฐานของกรมปศุสัตว์ รองรับการเลี้ยงไก่เนื้อ 3.18 ล้านตัวต่อรอบการเลี้ยง หรือ 15.88 ล้านตัวต่อปี
- PTG (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 9.85 บาท ปี 67 บริษัทประมาณการปริมาณขายน้ำมันโต 10-12% ปัจจัยหนุนจากการบริโภคภาคเอกชน ภาคการท่องเที่ยว และกลยุทธ์การตลาดผ่าน PT Max Card โดยมีแผนขยายปั๊มน้ำมันเป็น 2,251 แห่ง ส่วน Non-Oil วางเป้าโต 40-50% ตามปริมาณการจำหน่ายก๊าซ LPG โต 30-40% ผ่านจำนวนสถานีบริการ Auto LPG & Gas Shop เพิ่มเป็น 788 สาขา ร้านกาแฟพันธุ์ไทยเพิ่มเป็น 1,282 สาขา คาด Q2/67 ฟื้นตัว QoQ, YoY หนุนจากค่าการตลาดที่กลับเข้าสู่กรอบ 1.7-1.8 บาท/ลิตรหลังรัฐทยอยลอยตัวน้ำมันดีเซลให้สะท้อนต้นทุนมากขึ้น
- HANA (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 50 บาท ยังคงมุมมองเชิงบวกว่าผลการดำเนินงานน่าจะผ่านจุดต่ำสุดแล้วในไตรมาส 1/67 และจะทยอยฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 2/67 แต่จะเร่งขึ้นใน H2/67 ภาพรวมกลุ่ม PCB ยังมีคำสั่งซื้อดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรงงานลำพูนได้ market share เพิ่มขึ้น โรงงานที่จีนและ US ยังแข็งแกร่ง ส่วนประเด็นสหรัฐขึ้นภาษีจีน ผู้บริหารไม่ได้มองเป็นลบ อาจทำให้ order ย้ายมาที่โรงงานในไทยและกัมพูชาแทน คาดกำไรปี 67 ที่ 2.2 พันลบ. +9% y-y
- BDMS (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 33.10 บาท เล่นหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลในภาวะที่ตลาดหุ้นไม่แน่นอน รายงานกำไรปกติไตรมาส 1/67 ที่ 4.07 พันลบ. สูงกว่าที่เราคาด 2% เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ที่ต่ำกว่าคาด และทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ กำไรปกติเติบโต 3% QoQ และ 17%YoY ผู้บริหารคงเป้าปี 67 ด้วยการเติบโตของรายได้ที่ 10-12% และอัตรากำไร EBITDA ที่ 24-25%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 มิ.ย. 67)
Tags: SET, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย