สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (5 มิ.ย.) เนื่องจากความหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.เป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน และช่วยบดบังปัจจัยลบจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินรายสัปดาห์ของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด
- ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 82 เซนต์ หรือ 1.12% ปิดที่ 74.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 89 เซนต์ หรือ 1.15% ปิดที่ 78.41 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันได้ปัจจัยหนุนจากความหวังที่ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมปรับตัวลดลง และจะช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมัน
ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 152,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 175,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 188,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย.
หลังมีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว นักลงทุนให้น้ำหนัก 69% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 50% ในการสำรวจเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ ความคาดหวังที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยยังช่วยบดบังปัจจัยลบจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.3 ล้านบาร์เรล
สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์เชื้อเพลิงที่อ่อนแอลงในช่วงวันหยุดเนื่องในวัน Memorial Day หรือวันรำลึกถึงผู้พลีชีพเพื่อชาติ ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นฤดูการขับขี่รถยนต์ในฤดูร้อนของสหรัฐ
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 3.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 มิ.ย. 67)
Tags: WTI, น้ำมัน WTI, ราคาน้ำมัน