EPG วางเป้ายอดขายงวดปี 67/68 โต 8-10% ทะลุ 1.4 หมื่นลบ.อัตรากำไรขั้นต้น 30-33%

นายเฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป (EPG) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายในงวดปี 67/68 (เม.ย. 67 – มี.ค. 68) เติบโต 8-10% หรือทะลุ 1.4 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่ 1.3 หมื่นล้านบาท พร้อมตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นที่ 30-33%

การเติบโตในงวดปีนี้มาจากการดำเนินงานของ 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 6-8% โดยเฉพาะสินค้าฉนวนกันความร้อน/เย็น เกรดพรีเมี่ยม ที่มุ่งเน้นทำการตลาดในประเทศ สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น สำหรับสินค้าเพื่อใช้ในกลุ่มอุตสาหกรรม Ultra Low Temperature Insulation และระบบ Air Ducting system เน้นทำการตลาดมากขึ้นทั้งในประเทศ และสหรัฐอเมริกา สำหรับกลุ่มลูกค้าโครงการในประเทศ Aerolex ยังได้รับประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตมาตั้งที่ EEC และในสหรัฐอเมริกากลุ่มลูกค้าโครงการที่สำคัญ ได้แก่ กลุ่ม Semi-Conductor/ Cloud/ และยานยนต์ เป็นต้น

โดยฉนวน Aeroflex ตอบโจทย์การประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงได้การรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรและผลิตภัณฑ์ โดยเป็นบริษัทต้นแบบของกลุ่มธุรกิจ EPG ที่สามารถตั้งเป้าหมายมุ่งสู่ Net Zero Emission ในปี 85 และมีแผนงานรองรับอย่างเป็นรูปธรรม ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ Aeroklas ตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 10-12% มาจากการพัฒนาสินค้านวัตกรรมร่วมกับลูกค้ากลุ่ม OEM ค่ายยานยนต์ของยุโรป เอเชีย และ สหรัฐอเมริกา

ด้วยความเชี่ยวชาญด้านการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์จากโพลีเมอร์และพลาสติกเพื่อให้มีน้ำหนักเบา มีความทนทาน สามารถใช้ทดแทนวัสดุประเภทโลหะได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้รถกระบะมีน้ำหนักเบาลง ลดการใช้พลังงาน และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่สำคัญได้รับมาตรฐานความปลอดภัย ทำให้ค่ายยานยนต์เลือก Aeroklas เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์หลากหลายประเภท ซึ่งจะทยอยออกสู่ตลาดภายในงวดปีนี้ นอกจากนี้ Aeroklas ยังมีโครงการพัฒนาสินค้านวัตกรรมสำหรับยานยนต์ทั้ง ICE และ EV ร่วมกับค่ายยานยนต์เพื่อสร้างสินค้า New S-Curve อย่างต่อเนื่อง

ส่วนธุรกิจในออสเตรเลียภายใต้ Aeroklas Asia Pacific Group (AAPG) ยังคงอยู่ในช่วงการพลิกฟื้นธุรกิจ โดยเสริมการทำงานร่วมกันของธุรกิจและทุกแบรนด์ในออสเตรเลีย เช่น Aeroklas Fitment Center มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนธุรกิจ Fleet and OEM

ด้านธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติกภายใต้แบรนด์ EPP ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 3-5% โดยจะมุ่งเน้นขยายส่วนแบ่งการตลาดบรรจุภัณฑ์อาหาร และบรรจุภัณฑ์พลาสติกแบรนด์ eici ด้วยมาตรฐานต่างๆ เช่น มอก./ GMP/ HACCP/ BRC และล่าสุด FSC (Forest Stewardship Council) งนี้ เมื่อปีที่ผ่านมา EPP ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตจึงพร้อมเพิ่มการผลิตหากคำสั่งซื้อบรรจุภัณฑ์พลาสติกเริ่มปรับตัวดีขึ้น ซึ่ง EPP ใช้นวัตกรรมพัฒนากระบวนการผลิตเพื่อช่วยลดของเสียจากการผลิต พร้อมนำเสนอบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลายสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างครอบคลุม ได้แก่ บรรจุภัณฑ์กระดาษ และบรรจุภัณฑ์พลาสติกชีวภาพ เป็นต้น

ส่วนธุรกิจร่วมทุนกลุ่มธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น และ ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์ ทั้งในไทย อินเดีย และ จีน เติบโตได้ดีตามกลุ่มอุตสาหกรรม สำหรับธุรกิจร่วมทุนในแอฟริกาใต้บริษัทและผู้ลงทุนรายอื่นได้ส่งที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ เข้าไปดูแล ติดตาม และร่วมแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด พร้อมกับเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ

รศ.เฉลียว กล่าวว่า บริษัทได้ตั้งงบลงทุนในงวดปี 67/68 ไว้ที่ 466 ล้านบาท เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพิ่มเครื่องจักร และใช้ปรับปรุงไลน์การผลิต โดยที่บริษัทได้สร้างการเติบโตแบบ Organic Growth ด้วยสินค้าประเภทเดิมและสินค้านวัตกรรมที่ออกใหม่ของทุกกลุ่มธุรกิจ ทำให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครอบคลุม สามารถรักษาฐานลูกค้าเดิมและขยายไปสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ รวมถึงมุ่งมั่นทำการวิจัยและพัฒนาสร้างสรรค์สินค้านวัตกรรมสร้าง New S-Curve เพื่อสนับสนุนธุรกิจหลัก และเพื่อสร้างกลุ่มธุรกิจใหม่ในอนาคต

ส่วนภาพของเศรษฐกิจโลกในปี 67-68 แม้ว่าการฟื้นตัวทั่วโลกเป็นไปอย่างช้าๆ แต่มีเสถียรภาพ และแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกจะลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่มีแรงกดดันจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับสูงขึ้น รวมถึงผลกระทบจากปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อ โดยที่ปัจจัยหนุนธุรกิจของบริษัทจะมาจากสหรัฐเป็นหลักที่มีทิศทางการเติบโตเศรษฐกิจที่ดีต่อเนื่อง ทำให้ยอดการสั่งซื้อจากลูกค้าขนาดใหญ่ในสหรัฐมีการเติบโตขึ้นอย่างมาก

โดยจะเห็นได้จากยอดขายกลุ่ม Aeroflex ในช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา สามารถสร้างยอดขาย All time high ต่อเนื่องจากไตรมาส 4/66-67 ซึ่งในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส มีความต้องการใช้กลุ่ม Aeroflex หลายโครงการต่อเนื่อง ช่วยหนุนยอดขายของบริษัทยังเห็นทิศทางเติบโตได้ ส่วนกลุ่ม Aeroklas ยอดขายจะดีขึ้นในช่วงเดือนก.ย.-พ.ย. ตามความต้องการใช้ของลูกค้าที่มีการสั่งซื้อเข้ามามากในช่วงดังกล่าว แต่กลุ่ม EPP ที่เน้นขายในประเทศไทย หลังจากเดือนเม.ย.ผ่านไปยอดขายเริ่มทรงๆตัว เนื่องผ่านฤดูร้อนไปแล้ว ทำให้ความต้องการใช้ลดลงตามฤดูกาล แต่อย่างไรก็ตามไม่กระทบต่อภาพรวมของธุรกิจของ EPG ที่ตั้งเป้าไว้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 มิ.ย. 67)

Tags: , , ,
Back to Top