บล.ทิสโก้ ชี้ปัจจัยการเมืองไม่นิ่งสั่นคลอนความเชื่อมั่น แนะเก็บหุ้นรับปัจจัยหนุนเศรษฐกิจโลกฟื้น

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ปัจจัยการเมืองในประเทศกลับมาไม่นิ่ง ถือเป็นความเสี่ยงสำคัญที่กระทบความเชื่อมั่นนักลงทุน ทั้งการปรับคณะรัฐมนตรี “เศรษฐา 1/1” ไม่ถึง 1 เดือน มีรัฐมนตรีประกาศลาออกถึง 3 ท่าน สะท้อนแรงกระเพื่อมภายในพรรคร่วมรัฐบาลอย่างชัดเจน และเรื่องด่วนที่มาแรงแซงทางโค้ง คือ กลุ่ม 40 สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ (รธน.)วินิจฉัยว่านายกฯ ขาดคุณสมบัติหรือไม่จากกรณีแต่งตั้งคุณพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยศาลฯ มีมติรับคำร้องดังกล่าวเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา และให้นายกฯ ชี้แจงข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน

ถึงแม้ บล.ทิสโก้ให้น้ำหนักว่าคำวินิจฉัยจะออกมาเป็นบวกต่อนายกฯ หลังได้มือดีทางกฎหมายอย่างอดีตรองนายกฯ วิษณุ เครืองาม เข้ามาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี แต่ความไม่แน่นอนทางการเมืองดังกล่าวจะสร้างความอึมครึมต่อตลาดต่อไปจนกว่าศาลฯ จะมีคำวินิจฉัย ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือนข้างหน้านี้ หรือภายในช่วงเดือน มิถุนายน – กรกฎาคม ซึ่งอาจจะเป็นเวลาที่ใกล้เคียงกันกับศาลฯ อาจมีคำวินิจฉัยของพรรคก้าวไกลในคดีล้มล้างการปกครองก็ได้

อย่างไรก็ตาม ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของทั่วโลก (Global Composite PMI) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 โดย Composite PMI รวมของประเทศหลัก อาทิ สหรัฐฯ, ยูโรโซน, ญี่ปุ่น และอินเดียออกมาเพิ่มขึ้นทั้ง 4 ประเทศ นอกจากจะสะท้อนทิศทางเศรษฐกิจโลกผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว ยังส่งสัญญาณด้วยว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมีการกระจายตัวมากขึ้น สอดคล้องกับประมาณการ GDP ปี 2567 ที่นักเศรษฐศาสตร์เริ่มปรับคาดการณ์ขึ้นในหลาย ๆ ประเทศทั้งกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (Developed Markets : DM) และกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา (Emerging Markets : EM) อิงจากสถิติการลงทุน 10 ปีที่ผ่านมาเมื่อ Global Composite PMI รวมที่สูงกว่า 50 จุด ตลาดหุ้นใน EM มักจะมีการปรับขึ้นเร็วกว่าตลาดหุ้นใน DM หรือ Outperform โดยเฉลี่ย 10% เมื่อเทียบกับหุ้นทั่วโลก

สำหรับตัวเลขส่งออกไทยล่าสุดในเดือนเมษายนพลิกขยายตัว +6.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่กระจายตัวมากขึ้น น่าจะหนุนภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า โดยเฉพาะครึ่งหลังของปี บล.ทิสโก้ คาดว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าจะขยายตัวได้ราว 2.0-2.6% จากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในฝั่งยูโรโซนที่ดีขึ้นต่อเนื่อง และเศรษฐกิจจีนอาจฟื้นตัวได้ดีกว่าคาดหลังทางการมีแนวทางในการกระตุ้นเพิ่มขึ้น บล.ทิสโก้ยังคงมุมมองโมเมนตัมเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังคาดว่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก

ด้วยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่กระจายตัวมากขึ้น และความไม่แน่นอนของปัจจัยการเมืองในประเทศ บล.ทิสโก้จึงแนะนำนักลงทุนเลือกหุ้นที่มีดีมานด์จากต่างประเทศช่วยหนุน แนะนำ AMATA, BDMS, GFPT, HANA, MINT และหุ้นที่คาดจะเข้า SET50 Index ในช่วงครึ่งปีหลัง แนะนำ BJC และ ITC

ด้านแนวรับและแนวต้านสำคัญของ SET Index เดือนนี้อยู่ที่ 1330, 1300 และ 1370, 1390, 1400-1410 จุด ตามลำดับ

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 มิ.ย. 67)

Tags: , , , ,
Back to Top