ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐประกาศเมื่อวันอังคาร (4 มิ.ย.) ห้ามไม่ให้ผู้อพยพที่ข้ามพรมแดนสหรัฐ-เม็กซิโกอย่างผิดกฎหมาย ทำการยื่นขอลี้ภัย ซึ่งถือเป็นการดำเนินการครั้งใหญ่ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.ปีนี้
ผู้อพยพที่ถูกจับกุมขณะข้ามแดนอย่างผิดกฎหมายจะถูกเนรเทศหรือถูกส่งกลับไปยังเม็กซิโกในทันทีภายใต้มาตรการดังกล่าว ซึ่งมีผลบังคับใช้หลังเที่ยงคืนของวันที่ 4 มิ.ย. อย่างไรก็ดี กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐระบุว่า จะมีข้อยกเว้นสำหรับผู้เยาว์ที่เดินทางโดยลำพัง ผู้ที่เผชิญกับความเสี่ยงด้านสุขภาพหรือความปลอดภัยที่ร้ายแรง และเหยื่อของการค้ามนุษย์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ปธน.ไบเดนได้คุมเข้มการรักษาความมั่นคงชายแดนให้เข้มงวดยิ่งขึ้น เนื่องจากการอพยพเข้าประเทศเป็นประเด็นสำคัญสำหรับชาวอเมริกันในการเลือกตั้งวันที่ 5 พ.ย. ซึ่งปธน.ไบเดนจะแข่งขันกับนายโดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกันซึ่งมีจุดยืนที่แข็งกร้าวในเรื่องการอพยพเข้าประเทศและให้คำมั่นว่าจะกวาดล้างอย่างกว้างขวาง หากได้รับเลือกตั้ง
ในระหว่างการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว ปธน.ไบเดนระบุว่า ผู้อพยพย้ายถิ่นที่ลงทะเบียนนัดหมายโดยใช้แอปที่เรียกว่าซีบีพี วัน (CBP One) หรือปฏิบัติตามกฎหมายอื่น ๆ แทนการข้ามแดนอย่างผิดกฎหมาย จะยังคงสามารถเข้าถึงกระบวนการยื่นขอลี้ภัย
ทั้งนี้ ปธน.ไบเดนกล่าวว่า “การดำเนินการนี้จะช่วยให้เราสามารถควบคุมชายแดนของเราได้อีกครั้ง และฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยของกระบวนการ” พร้อมเสริมว่า “การสั่งห้ามนี้จะยังคงมีผลจนกว่าจำนวนผู้ที่พยายามเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายจะลดลงถึงระดับที่ระบบของเราสามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 มิ.ย. 67)
Tags: กฎหมาย, การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ, ผู้อพยพ, สหรัฐ, เม็กซิโก, โจ ไบเดน