หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งในกรอบ แรงงานสหรัฐชะลอเก็งเฟดลดดอกเบี้ย-มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวหนุน

นักวิเคราะห์ ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีแกว่งตัวตามกรอบ 1,330 -1,350 จุด มองว่าดาวน์ไซด์จำกัด ขณะที่เมื่อวานนี้สหรัฐรายงานตัวเลขการเปิดรับสมัครงานเดือนเม.ย. ต่ำกว่าที่ตลาดคาด สะท้อนภาคแรงงานของสหรัฐเริ่มชะลอตัว อาจหนุนให้มีการปรับลดดอกเบี้ยง่ายขึ้น ล่าสุด FedWatch Tool ให้น้ำหนักว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ เป็นแรงหนุนต่อหุ้นสหรัฐและเป็น Sentiment บวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่ในประเทศติดตามการะประชุมครม. ซึ่งเมื่อวานนี้มีการออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว และนายกฯได้เร่งขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ ซึ่งหากเกิดเร็วก็จะเป็น Sentiment ที่ดีกับการลงทุน โดยให้กรอบแนวรับ 1,330 จุดและแนวต้าน 1,350 จุด

นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีแกว่งตัวตามกรอบ 1,330 -1,350 จุด มองว่าดาวน์ไซด์ในการปรับลงต่อจำกัด ซึ่งวันนี้ไม่มีปัจจัยลบใหม่มากดดัน ขณะที่เมื่อวานนี้มีการเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ของสหรัฐ ที่ระดับ 8.06 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 8.4 ล้านตำแหน่ง สะท้อนว่าภาคแรงงานของสหรัฐเริ่มชะลอความร้อนแรง ซึ่งอาจหนุนให้เงินเฟ้อหรือการปรับลดอัตราดอกเบี้ยง่ายขึ้น

ล่าสุด FedWatch Tool ระบุว่านักลงทุนให้น้ำหนักที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยครั้งแรกเดือนก.ย. ด้วยโอกาสมากกว่า 50% เป็นแรงหนุนต่อหุ้นสหรัฐที่เมื่อวานนี้ปรับขึ้นมา ซึ่งปัจจัยดังกล่าวมองว่าเป็น Sentiment บวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงและ Fund Flow ที่จะไหลออกจากตลาดหุ้นไทยด้วย

ขณะที่ในประเทศปัจจัยหลักมาจากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเมื่อวานนี้มีการออกมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว 2 มาตรการ อาทิ มาตรการภาษีกระตุ้นสัมมนาในประเทศ (สำหรับนิติบุคคล) และมาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยวเมืองรอง (สำหรับบุคคลธรรมดา) ซึ่งจะเป็น Sentiment บวกอ่อน ๆ กับภาคการท่องเที่ยวและกลุ่มค้าปลีก นอกจากนี้ในระยะถัดไปที่นายกรัฐมนตรีได้มีการเร่งการขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการ Entertainment Complex ซึ่งถ้าเร่งเกิดได้น่าจะเป็น Sentiment ที่ดีกับการลงทุนเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ SET ที่อยู่บริเวณ 1,337 จุด P/E 14.1 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปี – 1 S.D. ซึ่งมองว่าเป็นจุดที่น่าจะมีแรงซื้อจากนักลงทุนระยะยาวเข้ามา ทำให้มองว่าดาวนไซด์จำกัด ขณะที่ภาพการขึ้นระยะสั้นต้องติดตามแรงขายของ Flow ว่าจะเริ่มชะลอเมื่อไร ซึ่งหากเริ่มชะลอ ดัชนีจะค่อย ๆ ฟื้นได้

สำหรับคำแนะนำในการลงทุนวันนี้ เลือกหุ้นที่ Valuation ไม่แพง พื้นฐานดี มีแนวโน้มเติบโต และในฐานะที่ตลาดมีความผันผวนเลือกหุ้นที่มี Dividend Yield ได้แก่ ADVANC และ SCCC

พร้อมทั้งให้กรอบแนวรับ 1,330 จุดและแนวต้าน 1,350 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (4 มิ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,711.29 จุด เพิ่มขึ้น 140.26 จุด หรือ +0.36%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,291.34 จุด เพิ่มขึ้น 7.94 จุด หรือ +0.15% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,857.05 จุด เพิ่มขึ้น 28.38 จุด หรือ +0.17%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 38,654.09 จุด ลดลง 183.37 จุด หรือ -0.47%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 18,489.78 จุด เพิ่มขึ้น 45.67 จุด หรือ +0.25% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,086.05 จุด ลดลง 5.15 จุด หรือ -0.17%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (4 มิ.ย.) 1,337.32 จุด ลดลง 8.34 จุด (-0.62%) มูลค่าซื้อขาย 45,992.34 ล้านบาท
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,257.82 ล้านบาท (4 มิ.ย.)
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. (4 มิ.ย.) ลดลง 97 เซนต์ หรือ 1.31% ปิดที่ 73.25 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (4 มิ.ย.) อยู่ที่ 3.94 เหรียญ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 36.59 แข็งค่าตามภูมิภาค รับดอลลาร์อ่อนค่า จับตาทิศทาง Flow-ราคาทอง
  • “เศรษฐา” เร่งแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจระยะสั้นและระยะยาว สั่ง “คลัง” ทำแผนกระตุ้นระยะสั้น เร่งเงินดิจิทัลหลัง ครม.อนุมัติงบกลาง 1.2 แสนล้านบาท มอบ “แรงงาน” ทำแผนดูแลปิดโรงงาน ครม.เคาะแผนท่องเที่ยวเมืองรองสร้างโมเมนตัมช่วงโลว์ซีซัน รัฐบาลสร้างเครื่องยนต์เศรษฐกิจใหม่ “แลนด์บริดจ์-เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” เผยคลัง-คมนาคม เร่งยกร่างกฎหมายหนุนเศรษฐกิจระยะยาว
  • ภาคธุรกิจประเมิน “เศรษฐกิจไม่ดี-กำลังซื้อหดตัว” ทั้งหมวดสินค้าจำเป็นเสื้อผ้า แฟชั่น ธุรกิจร้านอาหารหม้อร้อน ลามกลุ่มร้านอาหารบริการด่วน “ซีอาร์จี” หั่นเป้าโตไก่ทอดเบอร์ 1 ของโลก “เคเอฟซี” พอร์ตโฟลิโอที่ทำรายได้กว่า 50% จากเดิมคาดโต 11% ปีนี้ เหลือ 7-8%
  • “ไทยบีเอ็มเอ” เผย 5 เดือนปี 2567 “ยอดออกหุ้นกู้” ยังคงทรุด 35% อยู่ที่ 3.61 แสนล้าน จากปีก่อน สูงเฉียด 5 แสนล้าน เหตุ “เฟด” คงดอกเบี้ยระดับสูง ด้าน “บริษัทเอกชน” หันหาช่องทางต้นทุนต่ำ ทั้ง “ตั๋วแลกเงินระยะสั้น-เงินกู้แบงก์” จับตาครึ่งปีหลังหุ้นกู้ครบกำหนดราว “5.4 แสนล้าน” ลุ้นเฟดลดดอกเบี้ย
  • “คลัง” ตั้งแท่นเตรียมรีดภาษีคาร์บอน ชงเก็บจากน้ำมัน ขึงเกณฑ์ปล่อยก๊าซพิษเคาะ 200 บาทต่อตันคาร์บอน การันตีไม่ให้กระทบประชาชน ด้าน “เผ่าภูมิ” บี้ธนารักษ์เร่งปั๊มรายได้เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 5% ต่อปี สั่งเช็กลิสต์ที่ราชพัสดุในครอบครองของหน่วยรายการ หากไม่ได้ใช้ประโยชน์ ปล่อยรกร้าง เรียกคืนทันที
  • มาแล้ว! ของจริง โฆษกรัฐบาลเผยจะได้รับเงินแจก 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เริ่มแจกกลุ่มเปราะบาง 14.98 ล้านคนก่อนกลุ่มอื่น เป็นกลุ่มแรกภายใน 30 ก.ย.2567 เพราะกฎหมายระบุชัดงบกลางปี วงเงิน 122,000 ล้านบาท ต้องใช้จ่ายภายในปีงบประมาณเท่านั้น ชี้ต้องเร่งเปิดรับลงทะเบียน
  • สรท. เปิดเผยถึงการส่งออกของไทยในช่วงครึ่งปีหลัง ว่า ต้องจับตาปัญหาค่าระวางเรือที่กลับมาสูงขึ้นอีกครั้งในทุกเส้นทางจากปัญหาทะเลแดง ที่บางเส้นทางสูงขึ้นแบบผิดปกติ หรือสูงขึ้นแล้ว 30-40% ภายใน 1 เดือน ซึ่งสูงกว่าในช่วงเกิดวิกฤติทะเลแดงในระยะแรกเมื่อปลายเดือน ธ.ค.66 แม้ขณะนี้ยังไม่สูงเท่ากับช่วงโควิด-19 จึงอยากแนะนำให้ผู้ส่งออกประสานกับผู้นำเข้าใกล้ชิดในการส่งมอบสินค้า “สรท.ต้องการให้กระทรวงพาณิชย์เรียกประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) โดย สรท.จะเสนอให้ค่าบริการขนส่งทางทะเลเป็นบริการควบคุม เพื่อให้มีราคาอ้างอิงเป็นของไทยเอง และใช้เพื่อติดตามสถานการณ์เท่านั้นแต่ไม่ได้ใช้เพื่อการควบคุมหรือกำหนดเพดานราคา

*หุ้นเด่นวันนี้

  • ตลาดหลักทรัพย์ mai รับ บมจ. มากุโระ กรุ๊ป เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “MAGURO” ราคา IPO หุ้นละ 15.90 บาท MAGURO ดำเนินธุรกิจร้านอาหาร จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงให้บริการจัดส่งอาหาร และรับจัดเลี้ยงนอกสถานที่ภายใต้เครื่องหมายการค้าทั้งหมด 3 แบรนด์ จากสาขาของร้านอาหารทั้งหมด 27 สาขา 1) มากุโระ ร้านอาหารญี่ปุ่นและซูชิ 2) ซัมติง ทูเก็ทเตอร์ ร้านปิ้งย่างเกาหลีพรีเมียม และ 3) ฮิโตริ ชาบู ร้านอาหารชาบูและสุกี้ยากี้สไตล์ญี่ปุ่นแบบต้นตำหรับ
  • TRUE (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐานที่ 9.28 บาท คาดแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/67 ฟื้นตัวต่อ หลังงบไตรมาส 1/67 กำไรปกติออกมาดีกว่าคาด มองปัจจัยบวกหุ้นหนุน 3 ประเด็นคือ 1) การรับรู้รายได้และต้นทุนการผนึกกำลังที่เร็วขึ้นในปี 2567-2568 2) การฟื้นตัวของกระแสเงินสดอิสระที่รวดเร็วขึ้นในปี 2567-2568 และ 3) ประหยัดต้นทุนได้มากจากการแปลงข้อตกลงโรมมิ่งกับ NT เป็นระบบการอนุญาตของ กสทช. บนคลื่นความถี่ 2.3GHz
  • BANPU (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 6.45 บาท แนวโน้มไตรมาส 2/67 คาดผลการดำเนินงานปกติมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นได้ QoQ โดยธุรกิจก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ ที่เคยถูกถ่วงด้วยปัจจัยทางด้านราคาขายน่าจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นจากราคาก๊าซฯ อ้างอิง Henry Hub ที่ขยับขึ้นมาตลอดเดือน พ.ค.เป็นผลจาก Free port กลับมาดำเนินการส่งออกได้ ประกอบกับราคาก๊าซในยุโรปที่สูงขึ้นจากการปิดซ่อมท่อก๊าซของนอร์เวย์ ด้านราคาประเมินว่าน่าจะฟื้นต่อในไตรมาส 3/67 เพราะเป็นฤดูกาลเก็บสต๊อกก่อนเข้าฤดูหนาว ส่วนทางธุรกิจถ่านหินมีปัจจัยหนุนจากราคาขายและปริมาณที่เพิ่มขึ้น QoQ ตามสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย รวมถึงธุรกิจผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าในประเทศไทยที่เข้าช่วง high season ของความต้องการใช้ไฟฟ้า ด้าน Valuation เทรดต่ำ Book มาก มองว่า downside น้อยในช่วงตลาดผันผวน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 มิ.ย. 67)

Tags: ,
Back to Top