บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY) เปิดเผยว่า ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2567 เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 ได้มีมติในเรื่อง อนุมัติการจำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค จำกัด (มหาชน) (GMM Music)ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ให้แก่ Black Serenade Investment Limited ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งร่วมกันระหว่าง Tencent Music Entertainment Group (TME) และ Tencent Holdings Limited โดย Black Serenade เป็นบริษัทที่มีสถานะเป็นบริษัทย่อยของ Tencent Music Entertainment Group (Black Serenade) (รวมเรียก Black Serenade Investment Limited,Tencent Music Entertainment Group, Tencent Holdings Limited และ/หรือบริษัทในเครือของบริษัทดังกล่าวว่า “กลุ่มผู้ซื้อ”) จำนวนรวมทั้งสิ้น 80,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 10% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ GMM Music ในมูลค่า 70,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ซึ่งมีมูลค่าเทียบเท่าในสกุลเงินบาทประมาณ 2,570,827,000 บาท)
โดยบริษัทฯ จะจำหน่ายหุ้นสามัญของ GMM Music ให้แก่กลุ่มผู้ซื้อ จำนวน 51,428,572 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 6.43% ของจำนวนหุ้น
และ GMM Tomorrow Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ จะจำหน่ายหุ้นสามัญของ GMM Music ให้แก่กลุ่มผู้ซื้อจำนวน 28,571,428 หุ้นหรือคิดเป็นสัดส่วน 3.57%ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ GMM Music ในมูลค่า 25,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดย GMM Tomorrow Limited จะได้รับชำระค่าหุ้นสามัญของ GMM Music จากกลุ่มผู้ซื้อในรูปแบบของหุ้นสามัญของ Joox Thailand ในจำนวนทั้งสิ้น 3 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 30%ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ JooxThailand ในมูลค่า 25,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ซึ่งมีมูลค่าเทียบเท่าในสกุลเงินบาทประมาณ 918,152,500 บาท) โดยจะชำระทั้งหมดในงวดเดียว
ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดกับบริษัทฯจากธุรกรรมการจำหน่ายหุ้นสามัญของ GMM Music
(1) การที่กลุ่มผู้ซื้อเข้าลงทุนใน GMM Musicจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของ GMM Music ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ เนื่องจาก TME ถือเป็นบริษัทชั้นนำและมีชื่อเสียงในธุรกิจเพลงของโลก ดังนั้นการร่วมลงทุนในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจของ GMM Music อีกทั้งยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพขององค์ความรู้ในการดำเนินธุรกิจเพลงแบบครบวงจรของ GMM Music ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
(2) การที่กลุ่มผู้ซื้อเข้าลงทุนใน GMM Music จะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้แก่ GMM Musicในการขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศ เนื่องจากกลุ่มผู้ซื้อมีการดำเนินธุรกิจในหลากหลายประเทศทั่วโลก
(3) เนื่องจาก TME เป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ความบันเทิงด้านเพลงและเสียงชั้นนำในสาธารณรัฐประชาชนจีน อีกทั้งเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มฟังเพลงออนไลน์ที่มีฐานผู้ใช้บริการจำนวนมาก GMM Music จึงสามารถใช้ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี มาพัฒนานวัตกรรมเพลงไปสู่โลกอนาคต อาทิเช่น เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ด้านเพลง ประกอบกับการมีองค์ความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับความชอบ และพฤติกรรมของผู้บริโภคจากการร่วมมือทางธุรกิจกับ TME GMM Music สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาเพลงและศิลปินของ GMM Music ส่งเสริมการทำการตลาด และการสร้างสรรค์สื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์เพื่อให้บริการและศิลปินของ GMM Music สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างมีคุณภาพมากขึ้น
(4) บริษัทฯ สามารถนำเงินที่ได้รับจากธุรกรรมการจำหน่ายหุ้นสามัญของ GMM Musicไปใช้ในการชำระหนี้กู้ยืมของกลุ่มบริษัทฯ และ/หรือใช้ในการลงทุนขยายธุรกิจ และ/หรือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของกลุ่มบริษัทฯ
(5) การจำหน่ายหุ้นสามัญของ GMM Music ให้แก่กลุ่มผู้ซื้อ ส่งผลให้มูลค่าหุ้นสามัญของ GMM Music สะท้อนราคาตลาดโดยนัย จากราคาเข้าซื้อหุ้นสามัญของ GMM Music โดยกลุ่มผู้ซื้อซึ่งส่งเสริมศักยภาพของบริษัทฯ ในการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นด้านธุรกิจหรือด้านการเงิน ตลอดจนการแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจรายอื่นๆ อันจะช่วยให้การดำเนินธุรกิจในภาพรวมของกลุ่มบริษัทฯ เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน และสร้างผลตอบแทนอย่างต่อเนื่องให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ
ส่วนผลประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดกับบริษัทฯ ที่มาจากธุรกรรมเข้าถือหุ้นสามัญของ Joox Thailand
(1) ปัจจุบันบริษัทฯ เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่มุ่งเน้นธุรกิจด้านความบันเทิงแบบครบวงจร และธุรกิจเทคโนโลยีและแพลตฟอร์ม การได้มาซึ่งธุรกิจแพลตฟอร์มฟังเพลงออนไลน์ JOOX เพื่อกลุ่มผู้ใช้บริการที่มาจากประเทศไทย จึงเป็นไปตามแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจของบริษัทฯอีกทั้งยังเป็นการช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุนของบริษัทฯ เพื่อให้บริษัทฯ สามารถเติบโตในระยะยาวได้อย่างยั่งยืน
(2) เนื่องจากในปัจจุบัน บริษัทฯ มีธุรกิจแพลตฟอร์มฟังเพลงออนไลน์ของตนเอง ซึ่งได้แก่ Plern ซึ่งธุรกิจนี้ยังดำเนินการอยู่ภายใต้บริษัทฯ บริษัทฯ จึงมีแผนการดำเนินธุรกิจที่จะนำแพลตฟอร์มฟังเพลงออนไลน์ JOOX เพื่อกลุ่มผู้ใช้บริการที่มาจากประเทศไทยมาต่อยอดกับ Plernเนื่องจากบริษัทฯ เล็งเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจจากแผนการดำเนินงานดังกล่าวที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน (Synergy) ระหว่างสองแพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นผลจาก 1) การลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เป็นค่าใช้จ่ายร่วม (Common Expense) เช่น ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาระบบของแพลตฟอร์ม และค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน เป็นต้น 2) การประหยัดต่อขนาด (Economy of Scale) จากการเพิ่มขึ้นของจำนวนลิขสิทธิ์เพลงที่เผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์ม 3) การเพิ่มโอกาสการหารายได้จากการรวมฐานสมาชิกของทั้งสองบริการ (Combined Subscribers) 4) การขยายช่องทางการขาย (Revenue Channel) ผ่านช่องทางของทั้งสองแพลตฟอร์ม และ 5) การทำกิจกรรมการตลาดร่วมกัน (Market Optimization) โดยใช้จุดแข็งของทั้งสองแพลตฟอร์ม ด้วยปัจจัยข้างต้นทั้งหมดจะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทฯ บนธุรกิจแพลตฟอร์มฟังเพลงออนไลน์
(3) การเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ TME ซึ่งมีความสามารถและมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจแพลตฟอร์มฟังเพลงออนไลน์ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงการพัฒนาคุณลักษณะและเทคโนโลยี(Platform Innovation)ของแพลตฟอร์มฟังเพลงออนไลน์ของบริษัทฯ
(4) เนื่องจากแพลตฟอร์มฟังเพลงออนไลน์ JOOX มีจำนวนผู้ใช้บริการเฉลี่ยต่อเดือนจำนวนมากในประเทศไทย บริษัทฯ สามารถร่วมมือกับ Joox Thailand โดยประยุกต์ใช้โครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีของ Joox Thailand ประกอบกับใช้องค์ความรู้เชิงลึกของผู้บริโภค เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารคอนเทนต์แบบครบวงจรสำหรับแพลตฟอร์ม (Content Management) ให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ตลอดจนการทำงานกับค่ายเพลงพันธมิตรทุกค่ายอย่างไร้ข้อจำกัด
(5) ด้วยการร่วมมือกันด้านศิลปินของ GMM Music ผนวกกับด้านเทคโนโลยีของ TME GMM Music จะสามารถสร้างโอกาสการหารายได้ใหม่ จากวงจรแฟนเพลง (Fandom Economy) ด้วยการสร้างกิจกรรมและช่องทางการมีส่วนร่วมกับศิลปิน แฟนด้อม ทั้งไทย สาธารณรัฐประชาชนจีน และต่างชาติเพิ่มเติม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 มิ.ย. 67)
Tags: GRAMMY, TENCENT, จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่, หุ้นไทย