สธ. ตั้งเป้ายกระดับ “แพทย์แผนไทย” เป็น Medical Hub หวังชิงส่วนแบ่ง 1 แสนล้าน

รมว.สาธารณสุข (สธ.) ตั้งเป้าอัพเกรดแพทย์แผนไทยให้เป็น Medical Hub ช่วยยกระดับเศรษฐกิจสุขภาพ เชื่อตลาดมีมูลค่าสูงถึง 100,000 ล้านบาท โดยจับมือกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เปิดโครงการฝึกอบรมหลักสูตรพัฒนาศักยภาพ มองแพทย์ทางเลือก เพื่อผลิตบุคลากรให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศช่วยลดความกังกวลของผู้ป่วย

“เรื่องที่คิดว่าน่าสนใจในตอนนี้ คือ การพัฒนากรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกให้เติบโต เพราะเรามีองค์ความรู้จากการแพทย์แผนไทยมาตั้งแต่โบราณ ทั้งการใช้สมุนไพรและศาสตร์ต่างๆในการช่วยรักษาโรคหรือเบาเทาอาการเจ็บป่วย ซึ่งหลายๆ วิธีก็เป็นที่ยอมรับจากนานาชาติ เช่น การนวดแผนไทย และการใช้ยาสมุนไพร ซึ่งการใช้แพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกตรงนี้ยังเป็นการช่วยลดความวิตกกังวลของผู้ป่วยได้ หากเราพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยลดผู้ป่วยที่เข้าโรงพยาบาลได้ และยังสามารถไปต่อยอดสู่การยกระดับเศรษฐกิจสุขภาพ ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่สำคัญที่เราจะผลักดันเข้าสู่ตลาดระดับโลก ต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น ยกระดับอุตสาหกรรมการแพทย์มูลค่าสูง แพทย์แผนไทย สมุนไพรและผลิตภัณฑ์สุขภาพ พร้อมทั้งจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะเพื่อการขับเคลื่อนภารกิจนี้ให้สำเร็จเป็นรูปธรรม ซึ่งน่าจะมีมูลค่าถึง 100,000 ล้านบาท และเราจะสร้าง Medical Hub เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วย” นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข กล่าว

ทั้งนี้ รัฐบาลมีนโยบายกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงานในแต่ละจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ ขณะเดียวกันกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายการพัฒนาการแพทย์ปฐมภูมิ โดยจะส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพของประชาชนจากองค์กรภาคีเครือข่ายในพื้นที่ เพื่อให้บริการสุขภาพที่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด และเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สนับสนุนการทำงานของอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ให้มีกฎหมายรองรับ กองทุนสุขภาพตำบล สะสางการถ่ายโอน รพ.สต. ซึ่งการถ่ายโอนบุคลากรก็จะเป็นไปด้วยความสมัครใจ ในอดีต อบจ. มุ่งพัฒนาท้องถิ่นผ่านการยกระดับสาธารณูปโภคหรือโครงสร้างพื้นฐาน แต่ในปัจจุบันจะต้องยกระดับการพัฒนาระบบสุขภาพอนามัยของประชาชนในพื้นที่ด้วยการพัฒนาบุคลากรที่ถ่ายโอนมาสังกัด อบจ. ถือเป็นงานที่สำคัญ เพื่อให้บริการมีคุณภาพและได้มาตรฐานไม่น้อยไปกว่าเดิม เพื่อให้ประชาชนผู้รับบริการไม่ได้รับผลกระทบจากการถ่ายโอน

รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ได้เปิดโครงการฝึกอบรมหลักสูตรพัฒนาศักยภาพด้านการแพทย์แผนไทยให้กับบุคลากรกองสาธารณสุข องค์การบริหารส่วนจังหวัด, สถานีอนามัยฯ (สอน.) , โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ที่ถ่ายโอนภารกิจไปองค์การบริหารส่วนจังหวัด รุ่นที่ 1 ไปแล้ว โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง กรมการแพทย์แผนไทย อบจ.และมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ซึ่งถือเป็นการพัฒนาบุคลากรด้านการแพทย์แผนไทยให้กับประเทศ โดยใช้องค์ความรู้ของแต่ละท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ เพิ่มศักยภาพบริการสุขภาพตามบริบทของพื้นที่ พัฒนาระบบการส่งต่อให้รวดเร็วไร้รอยต่อ และจะต้องเร่งผลิตบุคลากร เข้าสู่ระบบสุขภาพปฐมภูมิ เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 พ.ค. 67)

Tags: , , ,
Back to Top