สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันพฤหัสบดี (30 พ.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ถึงการชะลอตัวลงของอุปสงค์เชื้อเพลิง
- ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 1.32 ดอลลาร์ หรือ 1.67% ปิดที่ 77.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 1.74 ดอลลาร์ หรือ 2.08% ปิดที่ 81.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินรายสัปดาห์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 400,000 บาร์เรล
รายงานของ EIA ยังระบุว่า ความต้องการน้ำมันเบนซินลดลงราว 2% จากสัปดาห์ก่อนหน้า สู่ระดับ 9.15 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า วันหยุดเนื่องในวัน Memorial Day หรือวันรำลึกถึงผู้พลีชีพเพื่อชาติ ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นฤดูการขับขี่รถยนต์ในฤดูร้อนของสหรัฐนั้น จะช่วยกระตุ้นอุปสงค์เชื้อเพลิง
อย่างไรก็ดี EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐลดลง 4.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.6 ล้านบาร์เรล
นักลงทุนจับตาการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันอาทิตย์ที่ 2 มิ.ย.นี้ โดยแหล่งข่าวเปิดเผยว่ากลุ่มโอเปกพลัสอาจขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตจำนวน 2.2 ล้านบาร์เรล/วันไปจนถึงสิ้นไตรมาส 3 รวมทั้งอาจมีทางเลือกในการปรับลดกำลังการผลิตมากขึ้นเพื่อพยุงราคาในตลาด หรืออาจเพิ่มการผลิตน้ำมัน หากพบว่าความต้องการใช้น้ำมันได้เพิ่มมากขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 พ.ค. 67)
Tags: WTI, น้ำมัน WTI, ราคาน้ำมัน