พรรคแอฟริกัน เนชันแนล คองเกรส (ANC) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของประเทศแอฟริกาใต้ อาจสูญเสียเสียงข้างมากในรัฐสภา ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านการเมืองครั้งใหญ่นับตั้งแต่สิ้นสุดนโยบายการแบ่งแยกสีผิว “อะพาไทด์” (Apartheid)
ผลคะแนนเบื้องต้นจากคูหาเลือกตั้ง 11% พบว่า พรรค ANC ได้รับคะแนนเสียง 42.83% ตามมาด้วยพรรคเดโมเครติก อัลไลแอนซ์ (DA) 25.56% และพรรคเอโคโนมิก ฟรีดอม ไฟเตอร์ส (EFF) 8.28%
สภาวิจัยวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมแห่งแอฟริกาใต้ (CSIR) คาดการณ์ว่า พรรค ANC จะได้รับคะแนนเสียงประมาณ 42% โดยการคาดการณ์นี้อิงจากผลคะแนนที่นับแล้วจากคูหาเลือกตั้ง 8.5%
ทั้งนี้ ผลคะแนนอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ข่าวการเลือกตั้งดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อนักลงทุน หลังจากพรรค ANC ซึ่งเป็นพรรคของนายเนลสัน แมนเดลา อดีตประธานาธิบดีคนสำคัญของแอฟริกาใต้ หันมาให้ความสำคัญกับนโยบายทางเศรษฐกิจที่เน้นการไม่แบ่งแยกและการยกระดับมาตรฐานการครองชีพสำหรับผู้ด้อยโอกาส
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความพยายามดังกล่าว แต่ในปี 2565 ธนาคารโลกได้ขนานนามแอฟริกาใต้ว่าเป็นประเทศที่มีความไม่เท่าเทียมกันมากที่สุดในโลก เนื่องจากประเทศยังคงเผชิญกับปัญหาเชิงระบบ เช่น ไฟฟ้าดับเรื้อรัง อัตราการว่างงานเกือบ 33% และอัตราอาชญากรรมที่สูง
“ภายใต้การนำของผม พรรค ANC ดำเนินการรณรงค์ที่แข็งแกร่งและมีจริยธรรม โดยระดมอาสาสมัครของเราเพื่อตรวจตราทั่วทุกมุมของประเทศของเรา กระบวนการประชาธิปไตยกำลังจะได้รับชัยชนะ” นายซีริล รามาโฟซา ผู้นำพรรค ANC และประธานาธิบดีคนปัจจุบันของแอฟริกาใต้ กล่าวผ่านทางโซเชียลมีเดียเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (29 พ.ค.)
สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษรายงานว่า หากพรรค ANC ได้คะแนนเสียงไม่ถึง 50% จะต้องสูญเสียเสียงข้างมากในสภาและจัดตั้งรัฐบาลผสม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 พ.ค. 67)
Tags: Apartheid, พรรครัฐบาลแอฟริกาใต้, รัฐสภา, อะพาไทด์