บมจ.สายการบินนกแอร์ (NOK) ชี้แจงผลประกอบการปี 66 ว่า บริษัทและบริษัทย่อยพลิกมีกำไรสุทธิ 47.66 ล้านบาท จากปี 65 ขาดทุนสุทธิ 2,624.83 ล้านบาท โดยเป็นกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 47.66 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.01 บาท ในขณะที่ปีก่อนขาดทุนต่อหุ้น 0.70 บาท
บริษัทและบริษัทย่อย มีรายได้รวมทั้งสิ้น 8,750.86 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 1,283.21 ล้านบาท หรือ 17.18% สาเหตุสำคัญเนื่องจากรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 1,217.66 ล้านบาท (19.02%) รายได้จากการบริการอื่นๆ เพิ่มขึ้น 106.12 ล้านบาท (17.30%) ซึ่งปีนี้เป็นปีที่สายการบินฟื้นตัวจากสถานการณ์โรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง และจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 8,703.20 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 1,381.14 ล้านบาท(13.70%) ส่งผลให้บริษัทฯมีขาดทุนลดลงจากปีก่อนอย่างมีนัยสำคัญและมีผลกำไรสุทธิ
บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) เพิ่มขึ้น 3.14% ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) เพิ่มขึ้น 5.65% อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 82.20% สูงกว่าปีก่อนซึ่งเฉลี่ยที่ 80.24% และมีจำนวนผู้โดยสารที่ทำการขนส่งรวมทั้งสิ้น 4.57 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2.70%
อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุว่าตามที่ได้ขึ้นเครื่องหมาย “SP” (Suspension) หุ้นของ NOK เนื่องจากบริษัทไม่สามารถนำส่งงบการเงินประจำปี 66 มายังตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในเวลาที่กำหนดนั้น บัดนี้ NOK ได้นำส่งงบการเงินดังกล่าวแล้ว แต่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคง SP หุ้น NOK ต่อไป เนื่องจาก NOK เข้าข่ายต้องปรับปรุงฐานะการเงินและการดำเนินงาน (NC ปีที่ 3) และการไม่นำส่งงบการเงินภายในระยะเวลาที่กำหนด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 พ.ค. 67)
Tags: NOK, ผลประกอบการ, สายการบินนกแอร์, หุ้นไทย