พรรคอนุรักษ์นิยม ซึ่งปัจจุบันนายกรัฐมนตรีริชี ซูนัค แห่งอังกฤษเป็นหัวหน้าพรรค ระบุว่าจะกลับมาบังคับให้ชาวอังกฤษเข้ารับใช้ชาติ (National Service) อีกครั้ง หากพรรคอนุรักษ์นิยมชนะการเลือกตั้งทั่วไปที่มีกำหนดจัดขึ้นในเดือนก.ค.ปีนี้
ทั้งนี้ พรรคอนุรักษ์นิยมระบุว่า ประชาชนอายุ 18 ปีจะมีสองทางเลือกระหว่างการเข้ารับราชการทหารเต็มเวลา หรือสมัครใจทำงานบริการชุมชน 2 วันของทุกเดือน โดยจะเป็นการทำงานในวันหยุดเสาร์อาทิตย์
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า พรรคอนุรักษ์นิยมกำลังเสนอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมาธิการแห่งชาติเพื่อพิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายรับใช้ชาติและวางแผนให้วัยรุ่นชุดแรกเข้ารับใช้ชาติในเดือนก.ย.ปีหน้า โดยนโยบายดังกล่าวมีแนวโน้มจะใช้งบประมาณราว 2.5 พันล้านปอนด์ต่อปี
รายงานระบุว่า นโยบายดังกล่าวจะเสนอให้คนหนุ่มสาวเลือกเข้ารับราชการทหารเต็มเวลาเป็นเวลา 12 เดือนในกองทัพหรือหน่วยป้องกันไซเบอร์ของสหราชอาณาจักร เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับโลจิสติกส์ ความปลอดภัยทางไซเบอร์ การจัดซื้อจัดจ้าง หรือปฏิบัติการตอบสนองพลเรือน ส่วนอีกทางเลือกคือเข้าเป็นอาสาสมัครในชุมชน 2 วันของทุกเดือน หรือ 25 วันต่อปี โดยจะเป็นการทำงานในองค์กรต่าง ๆ เช่น สำนักงานดับเพลิง, สำนักงานตำรวจ และบริหารสุขภาพแห่งชาติอังกฤษ (NHS)
นายกฯซูนัคแสดงความเชื่อมั่นว่าการกลับมาบังคับใช้มาตรการดังกล่าวจะช่วยหล่อหลอมจิตวิญญาณแห่งชาติที่ปรากฏขึ้นในช่วงที่โรคโควิด-19 ระบาด
“สหราชอาณาจักรเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ แต่คนรุ่นใหม่ไม่ได้รับโอกาสหรือประสบการณ์ที่ควรได้รับ นอกจากนี้ยังมีคนพยายามแบ่งแยกสังคมของเราในโลกที่ไม่แน่นอนเพิ่มมากขึ้นนี้”
“ผมมีแผนชัดเจนในการแก้ปัญหานี้และรักษาอนาคตของเราเอาไว้ โดยผมจะใช้นโยบายรับใช้ชาติรูปแบบใหม่เพื่อสร้างเป้าหมายร่วมกันในกลุ่มคนรุ่นใหม่ของเรา และนำความภาคภูมิใจในประเทศชาติของเรากลับมาอีกครั้ง” นายกฯซูนัคกล่าว
ขณะเดียวกัน นายกฯซูนัคกล่าวด้วยว่า นโยบายดังกล่าวจะช่วยให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ทักษะในโลกแห่งความเป็นจริง และได้ลองทำสิ่งใหม่ ๆ รวมถึงมีส่วนร่วมในชุมชนของพวกเขาและประเทศของเรา
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า สหราชอาณาจักรเริ่มเกณฑ์ทหารในปี 2490 หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ในสมัยที่รัฐบาลแรงงานปกครองประเทศภายใต้การนำของนายคลีเมนต์ แอตต์ลี นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรในเวลานั้น ทำให้ชายอายุ 17-21 ปีต้องเข้ากองทัพเป็นเวลา 18 เดือน ก่อนยุติการเกณฑ์ทหารไปในปี 2503
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 พ.ค. 67)
Tags: อังกฤษ, เกณฑ์ทหาร