กม.ประชามติคืบ! “นิกร” เตรียมชง ครม. สัปดาห์น้า-เสนอสภาฯ 18 มิ.ย.

นายนิกร จำนง โฆษกคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 เปิดเผยว่า คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาเนื้อหาการเสนอแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติ เบื้องต้นได้จัดทำเสร็จแล้ว และเตรียมเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติในวันที่ 28 พ.ค.นี้

“ผมเชื่อว่า ครม.จะส่งร่างแก้ไขกฎหมายประชามติต่อสภาฯ ได้ทันการพิจารณาในวาระแรกวันที่ 18 มิ.ย.นี้ และการพิจารณาจะเป็นไปด้วยดี ก่อนจะตั้งกรรมาธิการพิจารณาให้เสร็จภายในกรอบเวลา 45 วัน โดยไม่มีปัญหา เพราะฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านได้คุยร่วมกันไม่มีขัดแย้ง จากนั้นในการพิจารณาวาระสองและวาระสามจะทำได้ในช่วงปลายเดือน ก.ค.ก่อนจะส่งให้ สว.พิจารณาโดยใช้เวลา 1 เดือน และคาดว่าจะเสร็จในเดือน ส.ค.” นายนิกร กล่าว

โดยหลักการแก้ไขเนื้อหามี 6 ประเด็น คือ

1. กำหนดให้การออกเสียงประชามติเป็นวันเดียวกันกับการเลือกตั้ง สส.ทั่วไป หรือเลือกตั้งท้องถิ่น เนื่องจากดำรงตำแหน่งครบวาระ

2. เพิ่มช่องทางการออกเสียงสามารถทำผ่านบัตรออกเสียง หรือไปรษณีย์ เครื่องออกเสียงอิเล็กทรอนิกส์ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือวิธีอื่น โดยเขตออกเสียงสามารถใช้วิธีเดียวกันหรือหลายวิธีได้

3. แก้ไขเกณฑ์ว่าด้วยการผ่านประชามติ ให้ใช้เสียงข้างมากของผู้มาออกเสียง โดยคะแนนเสียงข้างมากดังกล่าวต้องสูงกว่าคะแนนเสียงที่ไม่แสดงความเห็นในเรื่องที่ออกเสียงประชามติ หรือ โหวตโน

4. ให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่กระบวนการและขั้นตอนประชามติอย่างทั่วถึง และให้มีการแสดงความเห็นอย่างอิสระเท่าเทียมทั้งผู้ที่เห็นชอบและไม่เห็นชอบกับเรื่องที่จัดทำประชามติ ทั้งนี้เพื่อแก้ไขประเด็นที่เคยเป็นปัญหากรณีที่ผู้ที่ไม่เห็นด้วยไม่มีช่องทางการแสดงความเห็น

5.ให้ กกต.กำหนดเขตออกเสียงที่สามารถใช้เขตประเทศ เขตจังหวัด เขตอำเภอ เขตเทศบาล เขตตำบล เขตหมู่บ้านหรือเขตอื่นเป็นเขตออกเสียงได้

6.ให้ใช้หน่วยเลือกตั้งเดียวกันกับการเลือกตั้ง สส.ทั่วไป หรือเลือกตั้งท้องถิ่นกรณีที่ครบวาระได้

สำหรับไทม์ไลน์การออกเสียงประชามติต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น หลังจากแก้ไขกฎหมายประชามติแล้วเสร็จและประกาศใช้ จะมีการกำหนดวันออกเสียงประชามติโดย กกต. อีกครั้ง ต่อการออกเสียงประชามติตามคำถามที่ ครม.เห็นชอบแล้ว ทั้งนี้ยังกำหนดไม่ได้เนื่องจากต้องรอการพิจารณาของสภาฯ ให้เสร็จก่อน อย่างไรก็ดีหากจะเร่งกันทำให้เสร็จ การออกเสียงประชามติครั้งแรกอาจจะเกิดขึ้นในปลายปี 2567 เมื่อผ่านแล้วจะเข้าสู่กระบวนการแก้มาตรา 256 ว่าด้วยกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เบื้องต้นคาดว่าจะทำได้เสร็จและนำไปออกเสียงประชามติครั้งที่สอง ทันกับการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งใหญ่ในเดือน ก.พ.68 อย่างไรก็ดีตนเชื่อว่าในสมัยรัฐสภาปัจจุบันจะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่

ส่วนการทบทวนคำถามออกเสียงประชามตินั้นทำไม่ได้ เพราะ ครม.ออกเป็นมติแล้ว อีกทั้งตนมองว่าในประเด็นการแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 หากจะแก้ไข ควรทำประชามติเป็นการเฉพาะเรื่อง อีกครั้ง โดยไม่ควรนำมารวมกับการรื้อใหญ่เพื่อทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แม้ว่าการเว้นการรแก้ไขหมวด 1 หมวด 2 จะเป็นปัญหาบ้าง แต่หากไม่เว้นเชื่อว่าจะมีปัญหามากกว่า

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 พ.ค. 67)

Tags: , , , , ,
Back to Top