สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันอังคาร (21 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานาน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์เชื้อเพลิง
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 54 เซนต์ หรือ 0.68% ปิดที่ 79.26 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 83 เซนต์ หรือ 0.99% ปิดที่ 82.88 ดอลลาร์/บาร์เรล
ไมเคิล ลินช์ ประธานบริษัท Strategic Energy & Economic Research กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลงมาจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและความเป็นไปได้ที่เฟดอาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานขึ้น ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมปรับตัวสูงขึ้นด้วย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจและสร้างแรงกดดันต่ออุปสงค์น้ำมัน
ฟิล ฟลายน์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Price Futures Group กล่าวว่า ตลาดจับตาอุปสงค์น้ำมันเบนซินในสหรัฐอย่างใกล้ชิด หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าผู้บริโภคลดการใช้น้ำมันเนื่องจากปัญหาเงินเฟ้อ
ข้อมูลจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า ก่อนที่จะถึงวันหยุดเนื่องในวันรำลึกถึงผู้พลีชีพเพื่อชาติ (Memorial Day) ในวันที่ 27 พ.ค.ซึ่งเป็นฤดูการขับขี่ยานยนต์ในช่วงฤดูร้อนที่คึกคักที่สุดของสหรัฐนั้น ราคาค้าปลีกน้ำมันเบนซินลดลงติดต่อกัน 4 สัปดาห์ สู่ระดับ 3.58 ดอลลาร์/แกลลอนในวันจันทร์ที่ 20 พ.ค.
นักลงทุนจับตารายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ (22 พ.ค.) ตามเวลาสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้กำหนดเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมทั้งจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้เช่นกัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 พ.ค. 67)
Tags: น้ำมัน WTI, น้ำมันดิบ, ราคาน้ำมัน