ธอส. โชว์ 4 เดือนแรกปล่อยสินเชื่อใหม่ 4.7 หมื่นลบ. มั่นใจทั้งปีตามเป้า 2.42 แสนลบ.

นายกมลภพ วีระพละ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยผลการดำเนินงานช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-เม.ย.67) ว่า ณ วันที่ 30 เม.ย. 67 ธอส. ปล่อยสินเชื่อใหม่แล้ว 37,282 บัญชี คิดเป็นวงเงิน 47,784 ล้านบาท หรือ 20% ของเป้าหมายในปี 2567 ที่ตั้งไว้ 242,544 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้ เป็นสินเชื่อปล่อยใหม่ให้กับลูกค้าที่ต้องการวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางถึง 24,476 ราย โดยมีสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1,716,015 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.14% เมื่อเทียบ ณ สิ้นปี 2566

สินทรัพย์รวม 1,808,118 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.26% เงินฝากรวม 1,557,356 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.08% หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) 5.63% ของยอดสินเชื่อรวม โดยมีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 153,182 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนต่อ NPL สูงถึง 158.55% ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ยังอยู่ระดับแข็งแกร่งที่ 15.30% สูงกว่าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนดที่ 8.5%

“คาดว่าสิ้นปีนี้ ธอส.จะสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ตามเป้าที่ 2.42 แสนล้านบาท ขณะที่ในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว ประกอบกับมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล ในการลดค่าจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์จาก 2% เหลือ 0.01% และค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จาก 1% เหลือ 0.01% รวมถึงการจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำของ ธอส. จึงทำให้ลูกค้าตัดสินใจยื่นขอสินเชื่อมากขึ้น”

นายกมลภพ กล่าว

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่มีลูกค้าเลือกใช้บริการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ (1) สินเชื่อบ้านลูกค้าสวัสดิการ ธอส. มียอดนิติกรรมสูงถึง 9,523 ล้านบาท (2) สินเชื่อบ้าน Happy Life มียอดนิติกรรมสูงถึง 7,607 ล้านบาท และ (3) โครงการบ้าน ธอส. เพื่อคุณ ปี 2567 มียอดนิติกรรมสูงถึง 4,101 ล้านบาท

  • หนุนปรับปรุงโครงสร้างหนี้ รักษาสิทธิลูกค้า SM และ NPL ยังคงมีบ้าน

นายวิทยา แสนภักดี รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานปรับโครงสร้างหนี้ ธอส. กล่าวว่า ธอส. ยังให้ความสำคัญในการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ (SM) และลูกค้าสถานะ NPL ให้ยังคงรักษาบ้านของตนเองไว้ได้ต่อไป ด้วยการจัดทำมาตรการปรับปรุงโครงสร้างหนี้อย่างยั่งยืน ปี 2567 ประกอบด้วย

– มาตรการ HD1 : สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะ SM ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี ผ่อนชำระเงินงวดเดือนที่ 1-3 จำนวน 1,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี

– มาตรการ HD2 : สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะ SM ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี ผ่อนชำระเงินงวดเดือนที่ 1-3 คำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 1.90% +100 บาท

– มาตรการ HD3 สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะ NPL ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี ผ่อนชำระเงินงวดเดือนที่ 1-4 จำนวน 1,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี โดยปัจจุบันมีลูกค้าลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการแล้ว จำนวน 25,798 บัญชี คิดเป็นวงเงินต้นคงเหลือ 29,966 ล้านบาท

  • เดินหน้าสร้าง Ecosystem ตามยุทธศาสตร์ปี 67

รองกรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวด้วยว่า ในปี 2567 ธอส. ได้ขยายความร่วมมือไปยังพันธมิตรของธนาคาร เพื่อร่วมกันสร้างระบบ Ecosystem ตามยุทธศาสตร์ของธนาคาร ในปี 2567 ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดกับลูกค้าเพิ่มมากขึ้น อาทิ โครงการ Resale Home Ecosystem : การร่วมมือกับพันธมิตรในการขยายฐานสินเชื่อ มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าบ้านมือสอง, โครงการ Green Loan ร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำ ในการขยายฐานสินเชื่อสำหรับที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

อีกทั้งยังร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ในการสนับสนุนนโยบายรัฐบาล และกระทรวงการคลัง ในการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน อาทิ โครงการสนับสนุนผู้กู้ยืมเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ให้เข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัย และโครงการสนับสนุนตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวทั้งหมดมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาองค์กรมุ่งสู่การเป็นธนาคารเพื่อความยั่งยืน

  • ความคืบหน้าโครงการสินเชื่อเพื่อผู้มีรายได้น้อย

นางภานิณี มโนสันติ์ รองกรรมการผู้จัดการกลุ่มงานสินเชื่อ ธอส. กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการของ ธอส. ในการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล เพื่อสนับสนุนให้ผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบางได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองมากขึ้น ด้วยการจัดทำสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย

– สินเชื่อบ้าน Happy Home สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยที่มีราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 ปีแรก เท่ากับ 3% ต่อปี ปัจจุบันมีลูกค้ารับรหัสเข้าร่วมโครงการ ผ่าน Mobile Application : GHB ALL GEN แล้ว 11,923 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 21,461 ล้านบาท และได้รับอนุมัติสินเชื่อแล้ว 4,741 ล้านบาท

– สินเชื่อบ้าน Happy Life สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยที่มีราคาตั้งแต่ 2.5 ล้านบาทขึ้นไป อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 คงที่ เท่ากับ 1.95% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเท่ากับ 2.98%) โดยธนาคารได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อแล้ว 10,250 ล้านบาท

– สินเชื่อบ้าน Mild Home สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยที่มีราคามากกว่า 3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยปีแรกเพียง 1.90% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเท่ากับ 2.90%) มีลูกค้าได้รับอนุมัติสินเชื่อแล้ว 710 ล้านบาท

– สินเชื่อสำหรับผู้สูงอายุ อาทิ โครงการสินเชื่อ Senior Home 2U ปี 2567 สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยจากผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 3.00% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 3.42%)

– สินเชื่อ Senior Home 4U ปี 2567 สำหรับผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง อัตราดอกเบี้ยปีแรกเท่ากับ 2.90% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเท่ากับ 3.30%)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 พ.ค. 67)

Tags: , , , ,
Back to Top