“ลาบูบู้” แบบไหนต้องผลิต-นำเข้า-จำหน่ายตามกฎหมาย สมอ.

นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) แจงกรณีที่มีการตรวจจับ “ตุ๊กตาลาบูบู้” ของเล่นยอดฮิตในยุคนี้ เนื่องจากไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดให้สินค้าที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นสินค้าควบคุม โดยผู้ผลิต ผู้นำเข้า จะต้องผลิต/นำเข้าสินค้าที่เป็นไปตามมาตรฐานเท่านั้น และจะต้องขออนุญาตจาก สมอ.ก่อน รวมถึงจะจำหน่ายได้เฉพาะสินค้าที่ได้มาตรฐาน

ปัจจุบันมีสินค้าที่ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน สมอ.จำนวน 144 รายการ อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เหล็กและวัสดุก่อสร้าง ภาชนะพลาสติกสำหรับบรรจุอาหาร เมลามีน ยางรถยนต์ แบตเตอรี่ และหมวกกันน็อก รวมทั้งของเล่น ซึ่งเป็นหนึ่งในสินค้าที่ สมอ.ควบคุมด้วย

เนื่องจากของเล่นที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาดในขณะนี้มีความหลากหลายทั้งรูปแบบและวัสดุที่ใช้ผลิต สมอ.จึงต้องเข้มงวดในการตรวจควบคุมเพื่อให้สินค้ามีคุณภาพและความปลอดภัย เพราะผู้ใช้ที่เป็นเด็กอาจสัมผัสหรือนำเข้าปากได้ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ รมว.อุตสาหกรรม ที่มีความห่วงใยประชาชนในการเลือกซื้อของเล่นที่ได้มาตรฐาน หากไม่มีการควบคุมความปลอดภัยอาจทำให้เกิดอันตรายจากส่วนแหลมคม ชิ้นส่วนขนาดเล็ก โลหะหนัก และสารเคมีที่อยู่ในสีเคลือบได้ ผู้ปกครองจึงควรเลือกของเล่นที่ได้มาตรฐานเพื่อความปลอดภัยของเด็ก

เลขาธิการ สมอ. กล่าวว่า ตามกฎหมาย “ของเล่น” หมายถึง สินค้าที่ออกแบบและทำให้เด็กอายุไม่เกิน 14 ปีเล่น เช่น ตุ๊กตา ลูกโป่ง ลูกบอล เป็นต้น ส่วนสินค้าที่ไม่จัดอยู่ในกลุ่มของเล่น เช่น พวงกุญแจ ของสะสมสำหรับผู้ใหญ่ ปืนบีบีกัน ปืนอัดลม ลูกดอก หนังสติ๊ก จักรยาน 2 ล้อที่มีอานนั่งสูงเกิน 435 มิลลิเมตร เป็นต้น

“ตุ๊กตาทุกประเภทจัดอยู่ในข่ายของเล่นที่ สมอ.ควบคุม ซึ่งต้องกำกับดูแลให้มีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐาน กรณีของลาบูบู้หากมีวัตถุประสงค์ในการผลิตเพื่อเป็นของเล่นสำหรับเด็ก และผู้ใช้งานคือเด็ก สมอ.ถือว่าเป็นของเล่น ซึ่งผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้จำหน่ายจะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย แต่หากมีวัตถุประสงค์ในการทำเพื่อเป็นอย่างอื่น เช่น พวงกุญแจ และผู้ใช้งานคือผู้ใหญ่ จะไม่อยู่ในข่ายของเล่นและไม่อยู่ในการควบคุมของ สมอ.” นายวันชัย กล่าว

โดยมาตรฐานของเล่นมีข้อกำหนดสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย เช่น การควบคุมปริมาณโลหะหนักอย่างสารตะกั่ว ปรอท แคดเมียม ที่อยู่ในส่วนประกอบของของเล่นให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานและไม่เป็นอันตราย ไม่มีขอบคมหรือปลายแหลม ต้องมีฉลากหรือข้อความระบุช่วงอายุของเด็กที่ของเล่นหรือภาชนะบรรจุ ต้องมีคำเตือนหรือวิธีการเล่น เช่น “มีชิ้นส่วนขนาดเล็กอาจทำให้อุดตันทางเดินหายใจ” “ห้ามเล่นใกล้เปลวไฟ” “ไม่เหมาะสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ” และ “ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ใหญ่” เป็นต้น

สำหรับบทลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายกรณีผลิตและนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีจำหน่ายสินค้าไม่ได้มาตรฐานมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงขอฝากให้ประชาชนเลือกซื้อของเล่นที่มีเครื่องหมาย มอก.และ QR Code ทุกครั้ง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 พ.ค. 67)

Tags: , ,
Back to Top