AUCT กำไร Q1/67 พุ่งกว่า 20% ตามปริมาณรถไหลเข้าสู่ลานประมูลเพิ่มขึ้น

นายวรัญญู ศิลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.สหการประมูล (AUCT) เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 1/67 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการเท่ากับ 342.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.44 ล้านบาท หรือ 11.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้จากการประมูล 280.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 40.76 ล้านบาท หรือคิดเป็น 17% ของรายได้จากการให้บริการ และเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/66 จำนวน 8.05 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3% ของรายได้จากการให้บริการ เนื่องจากปริมาณรถเข้าสู่ลานประมูลและปริมาณรถจบประมูลเพิ่มขึ้น ประกอบกับอัตราการจบประมูลที่ชะลอตัวในช่วงไตรมาส 4/66 และปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 1/67 ส่งผลทำให้มีรถจบประมูลเพิ่มขึ้น

ส่วนรายได้ค่าขนย้ายและบริการเสริมในไตรมาส 1/67 เท่ากับ 62.02 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.32 ล้านบาท หรือคิดเป็น 7.9% ของรายได้จากการให้บริการ เนื่องจากในไตรมาส 1/66 บริษัทฯ มีรายได้จากการจัดงานประมูลให้แก่หน่วยงานภาครัฐเพิ่มเข้ามา และเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/66 จำนวน 5.42 ล้านบาท หรือคิดเป็น 9.6% ของรายได้จากการให้บริการ ตามรายได้จากการประมูลที่เพิ่มขึ้น

สำหรับต้นทุนบริการไตรมาส 1/67 เท่ากับ 148.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.91 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เกิดจากต้นทุนการประมูลที่ผันแปรตามจำนวนรถจบประมูล เช่น ต้นทุนค่าขนย้าย และค่าใช้จ่ายในการประมูล ซึ่งผันแปรตามปริมาณรถจบประมูล แต่ลดลง 19.66 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 11.7 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/66

กำไรขั้นต้นไตรมาส 1/67 เท่ากับ 194.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.53 ล้านบาท หรือคิดเป็น 20.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 33.12 ล้านบาท หรือคิดเป็น 20.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/66 ตามการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการบริการ อย่างไรก็ตาม บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการให้บริการและบริหาร รวมทั้งต้นทุนทางการเงิน ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิในไตรมาส 1/67 จำนวน 119.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.07 ล้านบาท หรือคิดเป็น 25.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 26.60 ล้านบาท หรือคิดเป็น 28.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/66

นายสุธี สมาธิ กรรมการผู้จัดการ AUCT เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มี.ค.67 ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน นับตั้งแต่เดือน ส.ค.66 สาเหตุเกิดจากผู้บริโภคกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัว และกังวลว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวช้า ประกอบกับราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวสูงขึ้น โดยยอดขายรถยนต์ใหม่ไตรมาส 1/67 ลดลง 24.7% เมื่อเทียบไตรมาส 1/66 และลดลง 13.4% เมื่อเทียบไตรมาส 4/66 สอดคล้องกับการชะลอตัวของยอดสินเชื่อรถยนต์ใหม่ในไตรมาส 1/67 ที่สะท้อนมาจากความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน

ทั้งนี้ หนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น สินเชื่อส่วนบุคคลที่ขยายตัวต่อเนื่อง การชะลอตัวของเศรษฐกิจและความล่าช้าของงบประมาณรายจ่ายจากภาครัฐ ถือเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ปริมาณรถยังคงไหลเข้าสู่ธุรกิจประมูลในปี 67

ส่วนแผนของบริษัทฯ ในการเพิ่มพื้นที่คลังสินค้าและกระจายการประมูลสู่ภูมิภาคเพื่อหมุนเวียนสินค้าให้ขายได้เร็วขึ้นนั้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี อัตราการจบประมูลและระดับราคาจบประมูลเฉลี่ย มีทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงปลายปีที่ผ่านมา จึงเป็นผลเชิงบวกต่อบริษัทฯ นอกจากนี้ บริษัทยังคงดำเนินการตามแผนในการเพิ่มคู่ค้าทางธุรกิจทั้งที่เป็นสถาบันการเงินและที่ไม่ใช่สถาบันการเงินอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทิศทางการบริหารจัดการประมูลยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 พ.ค. 67)

Tags: ,
Back to Top