นายกิตติคุณ รอดรังนก ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บมจ.แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น (BKGI) เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจในปีนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมกับโรงพยาบาลรัฐ และเอกชนหลายราย เพื่อขยายการบริการที่เกี่ยวข้องภายใต้การบริการเดิม หรืออาจมีการพัฒนาการบริการด้านการแพทย์ใหม่ๆ โดยคาดว่า จะเริ่มทยอยประกาศการลงนามสัญญาความร่วมมือกันในช่วงไตรมาส 2 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ บริษัทฯยังการศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าไปควบรวมหรือซื้อกิจการ (M&A) ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจของบริษัทเพิ่มเติม คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปี 67 หลังบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ทำให้มีความพร้อมทั้งฐานทุนที่แข็งแกร่ง รองรับกับศักยภาพและการเติบโตทางธุรกิจ ผ่านศาสตร์การแพทย์จีโนมิกส์ (Genomics) ซึ่งมี BGI ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ให้การสนับสนุนถ่ายทอดเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย ให้กับ BKGI ในฐานะ Flagship รองรับแผนขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานในอนาคตเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งในปี 67 ตั้งเป้ารายได้โตเกิน 30% จากปีก่อน
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 มีรายได้รวม 69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13 ล้านบาท หรือ 24% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ที่มีรายได้รวม 56 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3 ล้านบาท หรือ 46% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ที่มีกำไรสุทธิ 7 ล้านบาท
ปัจจัยที่ทำให้รายได้และกำไรเพิ่มขึ้นมาจากรายได้จากการให้บริการตรวจคัดกรองความผิดปกติทางพันธุกรรมด้านอนามัยเจริญพันธุ์เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีการทำการตลาดเกี่ยวกับการบริการมากขึ้น ทำให้เป็นที่รู้จักในตลาดอย่างแพร่หลาย รวมถึงรายได้จากการขายเครื่องมือทางการแพทย์ และน้ำยาในการตรวจให้กับโครงการจัดตั้งห้องแลปของโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำแห่งหนึ่ง
ทั้งนี้ BKGI สามารถให้บริการตรวจและคัดกรองพันธุกรรมได้ครอบคลุมทุกช่วงอายุวัย ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ไปจนถึงวัยชรา รวมถึงการตรวจวิเคราะห์กลุ่มโรคติดเชื้อ และการตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรม ภายใต้เครื่องหมายการค้า ได้แก่ NIFTY, VISTA, NOVA, BGI-XOME, COLOTECT, SENTIS และ DNALL ซึ่งเป็นที่ยอมรับของคู่ค้าและผู้ใช้บริการ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 พ.ค. 67)
Tags: BKGI, กิตติคุณ รอดรังนก, แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น