PR9 อวดกำไร Q1/67 พุ่ง 46.1% เดินหน้าเพิ่มสัดส่วนผู้ป่วยต่างชาติ บุกตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

นพ.เสถียร ภู่ประเสริฐ รองประธานกรรมการและกรรมการผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพระรามเก้า (PR9) กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/67 บริษัทมีกำไรสุทธิหลัก 159 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.2 ล้านบาท เติบโต 46.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 108.8 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,080.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 112.6 ล้านบาท เติบโต 11.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 967.9 ล้านบาท

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/67 เติบโตตามเป้าหมายที่คาดไว้ โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากจำนวนผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นทั้งในกลุ่มผู้ป่วยใน (IPD) และผู้ป่วยนอก (OPD) โดยพบว่ามีผู้ป่วยเข้ามาใช้บริการในแผนกฉุกเฉิน, ตรวจสุขภาพ, หู คอ จมูก, โรคระบบทางเดินหายใจและศัลยกรรมผ่านกล้องแผลเล็กเพิ่มมากขึ้น หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ประกอบกับการท่องเที่ยวที่ยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีจำนวนผู้ป่วยต่างชาติเข้ามารับบริการมากขึ้น ทำให้รายได้จากกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น 24.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วย CLMV จีน และอาหรับ ตามลำดับ โดยสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำอัตราการทำกำไรสุทธิได้ที่ 14.7% ซึ่งเป็นอัตราที่ดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำไว้ 11.2%

ปัจจุบันโรงพยาบาลพระรามเก้ามีสัดส่วนผู้ป่วยต่างชาติ 15% และยังคงเดินหน้าวางกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อเพิ่มสัดส่วนผู้ป่วยต่างชาติให้มากขึ้น ซึ่งบริษัทมองเห็นแนวโน้มการเข้ามารับบริการรักษาโรคยากซับซ้อนของคนจีนเพิ่มขึ้น ทั้งในกลุ่ม Expat และนักท่องเที่ยว จึงมีแผนเปิดศูนย์การรักษาสำหรับชาวจีนและการฝังเข็มในอนาคต เพื่อการให้บริการที่ครบวงจรและครอบคลุมมากขึ้น

“เรายังคงมั่นใจว่าปี 67 เราสามารถเติบโต 12% ได้ตามแผนที่วางไว้ โดยตระหนักว่าเทรนด์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical Tourism) เป็นโอกาสสำคัญต่อการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนของโรงพยาบาลพระรามเก้า จึงได้มีการจัดตั้งทีมการตลาดต่างประเทศ ซึ่งทำหน้าที่มองหา สร้างความสัมพันธ์ และประสานงานกับพันธมิตรรายใหม่ๆ ที่จะช่วยนำเสนอบริการระดับสากลของเราต่อกับกลุ่มลูกค้าชาวจีน อาหรับ ยุโรป และออสเตรเลีย ซึ่งเราได้มีการวางแผนด้านพื้นที่เพื่อรองรับผู้ป่วยต่างชาติไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการรีโนเวทอาคารผู้ป่วย หรือการจัดตั้ง International Center ที่อาคาร A ชั้น 1 ที่จะเริ่มขึ้นในไตรมาส 2/67 และมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และความพึงพอใจของผู้ป่วยต่างชาติได้แน่นอน” นพ.เสถียร กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มาช่วยวินิจฉัยความเสี่ยงในการเกิดโรค เช่น บริการตรวจความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งด้วยรหัสพันธุกรรม โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่มีญาติป่วยด้วยโรคมะเร็ง เพื่อเป็นการวางแผนการตรวจเพิ่มเติมได้อย่างแม่นยำต่อไป ภายใต้การให้บริการคุณภาพระดับสากลเทียบเท่าโรงพยาบาลชั้นนำของโลก ในราคาที่คุ้มค่า (Value for Money Services) เพื่อเป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 พ.ค. 67)

Tags: , , ,
Back to Top