นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจด้านการวางแผนการเงินและการลงทุน มาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมาได้ร่วมกับกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) และหน่วยงานพันธมิตรภายใต้โครงการ ร่วมมือ-จับปลอมหลอกลงทุน” รณรงค์ให้ความรู้ประชาชนบ้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพจากการหลอกลงทุน
ในวาระที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก้าวเข้าสู่ปีที่ 50 ในปีนี้ จึงได้ร่วมกับ CMDF จัดโครงการส่งเสริมความรู้การลงทุนแก่ประชาชนในวงกว้างผ่านแคมเปญ “Money Syndromes” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและให้มุมมองว่าการลงทุนไม่ใช่เรื่องไกลตัวและควรเริ่มลงทุนตั้งแต่อายุน้อย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของแต่ละคนในอนาคต โดยมุ่งเน้นการสื่อสารไปยังคนรุ่นใหม่ Generation Y ที่เป็นวัยทำงานช่วงต้น และ Generation Z ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยมีสัดส่วนสูงถึงประมาณ 80% ของกลุ่มผู้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
การลงทุนมี 2 ด้าน ได้แก่ การระดมทุน คือ การนำเงินมาลงทุนในบริษัทจดทะเบียนต่าง ๆ และการลงทุน คือ นักลงทุนในเงินไปลงทุนในโครงการ นักลงทุนในตลาดทุนไทยประกอบด้วย 3 กลุ่มหลัก อาทิ นักลงทุนรายย่อยในประเทศ นักลงทุนสถาบันในประเทศ และนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ ซึ่งสิ่งที่ตลาดหลักทรัพย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในตลาดทุนต้องทำงานร่วมกันคือการส่งเสริม สนับสนุนให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงข้อมูลด้านการลงทุนของแต่ละกลุ่มได้อย่างเหมาะสม
แต่สิ่งสำคัญที่ต้องติดตามต่อ คือ มาตรการที่จะกระตุ้นให้มีนักลงทุนสถาบันในประเทศมากขึ้น จากปัจจุบันสัดส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศและรายย่อยในประเทศลดลงมาเรื่อย ๆ โดยต้องควบคุมให้เกิดความสมดุลในกลุ่มนักลงทุนทั้ง 3 กลุ่ม ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนนักลงทุนรายย่อยประมาณ 35-40% ลดลงจากเมื่อ 5 ปีที่แล้วที่มีสัดส่วนกว่า 50%
“ในช่วงที่ผ่านมา กลุ่มนักลงทุนสถาบันต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น จากความสะดวกในการเข้ามาลงทุนและเข้ามาด้วยมูลค่าจำนวนมาก แต่วันนี้สิ่งที่เราต้องสร้างคือทำยังไงให้มีฐานนักลงทุนรายย่อยในประเทศมากขึ้น โดยโครงการ Money Syndromes เป็นหนึ่งในวัตถุประสงค์ที่จะทำให้เรามีกลุ่มนักลงทุนหน้าใหม่”
นายภากร กล่าวว่า แนวโน้มตลาดทุนไทยช่วงครึ่งปีหลังเริ่มมีโมเมนตัมที่ดีทำให้นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศเริ่มมีความเชื่อมั่นกลับมา ซึ่งเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศเริ่มไหลกลับเข้ามาแล้ว แม้ช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจในประเทศยังไม่ดีมาก และจากในอดีตที่มีกองทุนหุ้นระยะยาว LTF จะมีเงินที่ไหลเข้ามาปีละ 5-6 หมื่นล้านบาททุกปี แม้แต่ละวันไม่ได้มีการซื้อขายมากเพราะเป็นการลงทุนระยะยาว แต่ก็ช่วยให้สัดส่วนนักลงทุนกลุ่มรายย่อยและนักลงทุนสถาบันเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม หากมีกองทุน LTF ในตอนนี้เม็ดเงินลงทุนอาจยังไม่เทียบเท่ากับในอดีต เนื่องจากขณะนี้ผ่านมาแล้วครึ่งปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนักลงทุนปัจจุบันลงทุนอะไรไปแล้วบ้าง
นายจักรชัย บุญยะวัตร ผู้จัดการ CMDF เปิดเผยว่า กองทุน CMDF มีความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดทุน การลงทุน และการพัฒนาตลาดทุน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งถือเป็นพันธกิจสำคัญของ CMDF จึงเป็นที่มาของความร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการดำเนินโครงการ ส่งเสริมความรู้การลงทุนภายใต้แนวคิด “เรื่องต้องรู้ก่อนลงทุน” ผ่านแคมเปญ “Money Syndromes รู้ทันโรคทรัพย์วายเสริมภูมิการลงทุน” ครอบคลุมการสื่อสารที่ครบวงจร เน้นช่องทางและวิธีการสื่อสารที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่ สอดรับกับไลฟ์สไตล์ อาทิ การใช้สื่อดนตรีหรือการ์ดูนในการถ่ายทอดเรื่องราวผสานองค์ความรู้ เชื่อว่าจะช่วยเปลี่ยนมุมมองการลงทุนจากเรื่องที่ซับซ้อนสู่ความเข้าใจที่ถูกต้อง สร้างกรอบความคิดในการเริ่มวางแผนการเงิน และเตรียมความพร้อมการลงทุนเพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนแก่คนรุ่นใหม่
“Money Syndromes รู้ทันโรคทรัพย์วายเสริมภูมิการลงทุน” มีระยะเวลาโครงการประมาณ 2 ปี โดยจะมีเนื้อหาลงบนแพลตฟอร์มออนไลน์ช่องทางต่าง ๆ ของพันธมิตร เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งจากฐานข้อมูลผู้ใช้งานในแพลตฟอร์มของพันธมิตรมากกว่า 10 ล้านคน เชื่อว่าจะสามารถเข้าถึงครอบคลุมและเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้ได้มากที่สุด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ค. 67)
Tags: CMDF, SET, ตลท., ตลาดทุนไทย, ตลาดหลักทรัพย์, ตลาดหุ้นไทย, ภากร ปีตธวัชชัย