DMT งบ Q1/67 สตรองคนแห่ขึ้นโทลเวย์สูงสุดรอบ 3 ปี ดันรายได้-กำไรโต แนวโน้ม Q2/67 สดใส

นายศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการ บมจ.ทางยกระดับดอนเมือง (DMT) กล่าวว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 มีรายได้ 617.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.33 ล้านบาท หรือ 7% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 268.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.31 ล้านบาท หรือ 6% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ไม่มีภาระหนี้สินระยะยาวที่มีดอกเบี้ย เป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งทางการเงินอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งการเงินและประสบารณ์ในการลุยงานประมูลในอนาคต

โดยไตรมาส 1/67 บริษัทมีรายได้ค่าผ่านทาง จำนวน 617.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 41.33 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน หลังได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ ซึ่งทำให้สถิติการเดินทางในประเทศไทย และสถิติการใช้ทางด่วนดอนเมืองโทล์ลเวย์ มีปริมาณจราจรเพิ่มขึ้น และหนาแน่นตั้งแต่ต้นปี 67 โดยตัวเลขปริมาณการจราจรไตรมาส 1/67 เฉลี่ยอยู่ที่ 113,809 คัน/วัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/66 ที่ปริมาณการจราจรเฉลี่ยอยู่ที่ 107,655 คัน/วัน

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/67 ประเมินว่ามีทิศทางสดใสต่อเนื่องจากไตรมาส 1/67 โดยมีแรงขับเคลื่อนจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ เช่น มาตรการฟรีวีซ่าเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจีน จำนวน 8.5 ล้านคนในปีนี้ ซึ่งจะสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานโดยรวมในปี 67 เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ คือ รายได้เติบโตประมาณ 10% จากปีก่อน ตามคาดการณ์ปริมาณการจราจรเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 116,000 คัน/วัน จากปี 66 เฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 106,907 คัน/วัน

“ปริมาณจราจรบนทางยกระดับดอนเมืองในไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 113,809 คัน/วัน เพิ่มขึ้น 5.72% เทียบกับไตรมาส 1/66 และเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 4/66 ที่มีปริมาณจราจรเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 110,336 คัน/วัน สูงสุดในรอบ 3 ปีตั้งแต่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับภาคธุรกิจที่กำลังฟื้นตัว ทำให้มีกิจกรรมการเดินทางเพิ่มสูงขึ้นกลับไปใกล้เคียงช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 บวกกับรัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวที่ชัดเจน เช่น มาตรการฟรีวีซ่าเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจีน ทำให้คาดว่าภาพรวมการท่องเที่ยวของไทยปี 67 จะฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 และสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้โต 10% ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้” นายศักดิ์ดา กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ค. 67)

Tags: , , ,
Back to Top