เจนเนอรัล มอเตอร์ส (GM) แถลงเมื่อวานนี้ (8 พ.ค.) ว่า บริษัทจะยุติการผลิตรถเชฟโรเลต มาลิบู (Chevrolet Malibu) ในเดือนพ.ย.ปีนี้ เพื่อหันไปผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตั้งแต่ปี 2507 เป็นต้นมา GM ขายรถเชฟโรเลต มาลิบู ทั่วโลกไปแล้วมากกว่า 10 ล้านคัน โดยปัจจุบัน GM กำลังลงทุน 390 ล้านดอลลาร์ในโรงงานประกอบรถยนต์ในรัฐแคนซัส เพื่อผลิตรถ EV เชฟโรเลต โบลต์ (Chevrolet Bolt) รุ่นใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ GM ได้ยุติการผลิตโบลต์รุ่นก่อนไปเมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา GM ได้หันไปเน้นการผลิตรถยนต์แบบครอสโอเวอร์และรถ SUV มากขึ้น โดยนอกเหนือจากรุ่นคอร์เวทท์ (Corvette) แล้ว มาลิบูจะถือเป็นรถยนต์เชฟโรเลตรุ่นสุดท้ายที่จำหน่ายในสหรัฐ ส่วนเชฟโรเลต คาเมโร่ (Chevrolet Camaro) ได้ยุติการผลิตไปเมื่อปลายปีที่แล้ว
GM แถลงเพิ่มเติมเมื่อวานนี้ว่า บริษัทจะระงับการผลิตรถคาดิลแลค XT4 (Cadillac XT4) หลังเดือนม.ค. 2568 ที่รัฐแคนซัสเป็นการชั่วคราว ซึ่งจะส่งผลให้มีการปลดพนักงานฝ่ายผลิตจนกว่าบริษัทจะกลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้งในช่วงปลายปี 2568 สำหรับทั้งรถ EV โบลต์และ XT4 ในสายการผลิตเดียวกัน
ทั้งนี้ ยอดขายมาลิบูในปี 2566 เพิ่มขึ้น 13% แตะที่ 130,000 คัน แต่ยอดขายในช่วงสามเดือนแรกของปีนี้ลดลง 12.5%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 พ.ค. 67)
Tags: GM, เจนเนอรัล มอเตอร์ส, เชฟโรเลต มาลิบู