AP ร่วง 6.54% ลดลง 0.70 บาท มาที่ 10.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 124.69 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.16 น. จากราคาเปิด 10.00 บาท ราคาสูงสุด 10.10 บาท ราคาต่ำสุด 9.95 บาท
บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) (AP) ไตรมาส 1/67 ยอด Presale 9,671 ล้านบาท ลดลง y-y จากแนวราบเป็นหลัก โดยยอดขายบ้านเดี่ยวอ่อนตัวจากซัพพลายที่เพิ่มมากขึ้นการแข่งขันสูงขึ้น และยังมี Cancellation rate สูงขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยที่สูง ความสามารถในการกู้ของลูกค้าลดลง หากเทียบ q-q จะลดลงจากคอนโดเป็นหลัก จากช่วงปลายปีก่อน Rhythm Charoennakorn Iconic ทำยอดขายดีเกินคาดไปมาก
เนื่องด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวและโครงการที่ยังเปิดน้อยในไตรมาสแรก ทำให้มีรายได้โอน 7,607 ล้านบาท -16.8%y-y, -15.6%q-q, GPM อสังหาฯ 33.7% อ่อนตัว y-y และ q-q จากปีก่อนโอนโครงการในพื้นที่ทำเลดี ส่วนแบ่งกำไรอ่อนตัว y-y และ q-q จากการโอนโครงการเดิมยังไม่มีโครงการครบกำหนดโอนเข้ามาใหม่ ทำให้มีกำไรสุทธิ 1,008 ล้านบาท -31.8%y-y, -24.5%q-q
ไตรมาส 2/67 ภาพการขาย-โอนดีขึ้น AP มีสัดส่วนที่อยู่อาศัยระดับต่ำกว่า 7 ล้านบาท อยู่ 51.8% ของสต็อกทั้งหมด มาตรการลดค่าโอนส่งผลให้ภาพการขายดีขึ้น ทำ Take up rate โครงการแนวราบในสัปดาห์แรกบางโครงการราว 20% หลังประกาศมาตรการกระตุ้น ซึ่งสูงกว่าช่วงไตรมาส 1/67 ที่ราว 10% ทางฝ่ายมองว่าภาพตลาดอสังหาฯในช่วงไตรมาส 2/67 ดีขึ้นกว่าไตรมาส 1/67 เล็กน้อย
AP เองยังมีเปิดโครงการเพิ่มขึ้นถึง 22 โครงการ มูลค่า 27,710 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นคอนโด 4 โครงการ 8,600 ล้านบาท และแนวราบ 18 โครงการ 19,110 ล้านบาท คาดว่าโครงการที่เปิดมากขึ้นจะช่วยทำให้ Presale ดีขึ้น และมีคอนโดฯ ครบกำหนดโอน 2 โครงการ Aspire ratchayothin (AP) มูลค่า 1,500 ล้านบาท และ Life phahon-ladprao (JV) มูลค่า 3,500 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 1/67 ที่ยังไม่มีคอนโดครบกำหนดโอน จะช่วยให้ยอดโอนดีขึ้น ส่วน Life rama4-asoke(JV) มูลค่า 6,500 ล้านบาท เดิมที่จะโอนในไตรมาส 2/67 เลื่อนเดือนโอนไปยังไตรมาส 3/67 ไม่ได้กระทบยอดโอนมาก ส่วนเรื่องขึ้นค่าแรงกระทบต้นทุนไม่ได้มาก AP มีสัดส่วนค่าแรงคิดเป็น 6% ของต้นทุนขาย
ทั้งนี้ ผู้บริหารเข้มงวดในระดับ DE ที่ 0.8 เท่า และแผนการเปิดโครงการแนวราบยังสูงที่สุดในอุตสาหกรรม เพื่อพยายามผลักดันยอดขาย-ยอดโอน และเน้นโครงการทาวน์โฮมที่สามารถสร้างและโอนได้ภายในปี เพื่อดึง cash flow ให้เร็วขึ้น นำเงินกลับมาลงทุนทำโครงการใหม่ๆได้ต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ยังคงรักษา DE ได้ในระดับเดิม
ทางฝ่ายยังคงมั่นใจในการบริหารงานของ AP มองปัจจัยหลักขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจหากกลับมาดีขึ้น จะทำให้อสังหาฯ รายใหญ่ฟื้นตัวได้ก่อน เนื่องจากมีฐานะทางการเงินที่ดี ความพร้อมของสินค้าเพื่อขายมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ประเมินราคาหุ้น โดยใช้ P/E ที่ 6.8 เท่า บวกกับค่าความยั่งยืนของกิจการอีก 2.8% เป็น 7.0 เท่า ด้วยงบที่ประกาศออกมาต่ำกว่าคาด ทางฝ่ายปรับลดกำไรปี 67 ลง 6.5% จากคาดการณ์เดิมมาอยู่ที่ 5,754 ล้านบาท -5.0%y-y ปรับลดราคาพื้นฐานลงมาที่ 12.80 บาท
ราคาหุ้นอาจปรับตัวลงมาในโซนต่ำจากการขึ้น XD ในวันที่ 8 พ.ค. 67 จากการได้ Div. yield 6.5% สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ 5.6% แนะนำลงทุนรับภาพไตรมาส 2/67 ที่จะฟื้นตัว คงคำแนะนำ “ซื้อ”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 พ.ค. 67)
Tags: AP, หุ้นไทย, เอพี