นายคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้แถลงต่อรัฐสภาญี่ปุ่นในวันนี้ว่า BOJ อาจจะใช้นโยบายการเงิน หากความเคลื่อนไหวของเงินเยนส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อ ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนว่า BOJ จะป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากเงินเยนที่ร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา
นายอุเอดะกล่าวว่า เงินเยนที่อ่อนค่าลงได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในหลายทาง ซึ่งรวมถึงการทำให้ต้นทุนการนำเข้าปรับตัวสูงขึ้น อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่ออุปสงค์สินค้าและการบริการ
นายอุเอดะยังกล่าวด้วยว่า ในขณะที่ BOJ ไม่ต้องการใช้นโยบายการเงินในการควบคุมความเคลื่อนไหวของเงินเยนโดยตรงนั้น BOJ ก็จะทำการตรวจสอบว่า ความเคลื่อนไหวของเงินเยนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและเงินเฟ้ออย่างมีนัยสำคัญหรือไม่
“ค่าจ้างของบรรดาบริษัทเอกชนและพฤติกรรมการกำหนดราคาของบริษัทเหล่านี้ กำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ BOJ จึงจำเป็นต้องจับตาเพื่อประเมินว่าความเสี่ยงของผลกระทบที่เกิดจากความผันผวนของค่าเงินนั้น จะรุนแรงเหมือนในอดีตหรือไม่”
“ความเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนจะมีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ที่ BOJ จะตอบสนองเรื่องนี้ด้วยการใช้นโยบายการเงิน” นายอุเอดะกล่าว
สำนักข่าวรอยเตอร์ได้นำถ้อยแถลงล่าสุดของนายอุเอดะมาเปรียบเทียบกับคำแถลงของเขาที่กล่าวภายหลังการประชุมของ BOJ ในเดือนที่แล้ว โดยในครั้งนั้นนายอุเอดะกล่าวว่า การอ่อนค่าของเงินเยนในช่วงที่ผ่านมาไม่ได้ส่งผลกระทบในทันทีต่อทิศทางเงินเฟ้อ
เทรดเดอร์บางรายมองว่า การแสดงความเห็นของนายอุเอดะหลังการประชุมนโยบายการเงินของ BOJ ในเดือนที่แล้วเป็นสาเหตุที่ทำให้เงินเยนอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า BOJ จะเลื่อนเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป โดยปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยของ BOJ อยู่ที่ 0-0.1%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 พ.ค. 67)
Tags: BOJ, ญี่ปุ่น, ธนาคารกลางญี่ปุ่น, นโยบายการเงิน, เงินเฟ้อ, เงินเยน, เศรษฐกิจญี่ปุ่น