รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า ทั้ง 4 ประเทศจะจัดการซ้อมรบทางทะเลมากขึ้น ในขณะที่ตั้งเป้าจะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันในฐานะส่วนหนึ่งของความพยายามในการรับประกัน “ภูมิภาคอินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง”
หนังสือพิมพ์นิกเกอิ เอเชียของญี่ปุ่นรายงานว่า รัฐมนตรีกลุ่มนี้มารวมตัวกัน ณ แคมป์ เอช เอ็ม สมิตธ์ (Camp H. M. Smith) ซึ่งเป็นฐานทัพเรือของสหรัฐในฮาวาย เพื่อจัดเจรจาทวิภาคีและหารือร่วมกัน เพื่อรับมือกับความตึงเครียดที่ร้อนระอุขึ้น โดยเมื่อไม่นานมานี้ จีนได้ยิงปืนใหญ่น้ำใส่เรือของฟิลิปปินส์ในทะเลจีนใต้
การรวมกลุ่มกันในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของสหรัฐในการสนับสนุนความร่วมมือระหว่างพันมิตรภายใต้สนธิสัญญาในภูมิภาค เพื่อตอบโต้ท่าทีอันแข็งกร้าวของจีน ซึ่งเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การหารือ 4 ฝ่ายในครั้งนี้มีขึ้นภายในเวลาเพียงไม่ถึง 1 ปีหลังจากที่มีการจัดการประชุมจตุรภาคีระหว่างผู้นำกลาโหมครั้งแรกนอกรอบการประชุมด้านความมั่นคงเอเชีย “แชงกรีล่า ไดอะล็อก (Shangri-La Dialogue)”
รายงานระบุว่า ประเทศต่าง ๆ เหล่านี้กำลังกระชับความสัมพันธ์ด้านกลาโหมโดยมุ่งเน้นไปที่ความร่วมมือทางทะเล ในขณะที่ความตึงเครียดบริเวณช่องแคบไต้หวันและทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ประเทศทั้ง 4 แห่งดำเนินการลาดตระเวนร่วมกันเป็นครั้งแรกในเดือนเม.ย. เริ่มทวีความรุนแรงขึ้น โดยในสัปดาห์นี้ เรือของจีน 4 ลำได้ยิงปืนใหญ่น้ำใส่เรือลำหนึ่งของฟิลิปปินส์ที่อยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจด้านมนุษยธรรมโดยมีนักข่าวอยู่บนเรือด้วย
ทั้งนี้ จีนอ้างอธิปไตยเหนืออาณาเขตเกือบทั้งหมดในทะเลจีนใต้ แม้ว่าศาลอนุญาโตตุลาการถาวรที่กรุงเฮกจะวินิจฉัยในปี 2559 ว่าการอ้างสิทธิ์เหนือน่านน้ำดังกล่าวของจีนไม่สอดคล้องกับพื้นฐานทางกฎหมายระหว่างประเทศก็ตาม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 พ.ค. 67)
Tags: ซ้อมรบ, ญี่ปุ่น, ฟิลิปปินส์, สหรัฐ, ออสเตรเลีย