นายพิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ (APCO) เปิดเผยว่า บริษัทฯ จะดำเนินการปรับกลยุทธ์การจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อกระตุ้นยอดจำหน่าย และสร้างความเป็นที่ยอมรับกับกลุ่มลูกค้าทั้งในและต่างประเทศมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ตลาดในประเทศมีแผนกระตุ้นยอดจำหน่ายด้วยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ป้องกันมะเร็ง และผลิตภัณฑ์ป้องกันสมองเสื่อม ด้วยค่าใช้จ่ายต่ำกว่า 90 บาท/วัน เพื่อเร่งการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง
โดยผลิตภัณฑ์ป้องกันมะเร็ง APCO ได้ต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้ผลในการดูแลผู้ป่วยมะเร็ง ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการ “ป้องกันมะเร็ง” เพื่อให้เป็นประโยชน์กับผู้บริโภคในวงกว้าง ซึ่งปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยมะเร็งได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากการสำรวจในอเมริกาและอังกฤษพบว่า ในจำนวนประชากร 2 คน จะมีโอกาสเป็นมะเร็ง 1 คน อีกทั้งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวยังช่วยกระตุ้น T cells และช่วยในการชะลอวัย
ส่วนผลิตภัณฑ์ป้องกันสมองเสื่อม APCO ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ “วัฒนชีวา” ที่ใช้ย้อนวัย ชะลอวัย และช่วยป้องกันความเสื่อมของสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งตอบรับกับความต้องการของผู้บริโภคในประเทศไทยที่กำลังเข้าสู่ภาวะสังคมผู้สูงอายุ ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์สำหรับป้องกันสมองเสื่อม มีความต้องการจากผู้บริโภคมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ APCO อยู่ระหว่างการวางแผนร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งเป็นบริษัทที่มีเครือข่ายธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพขนาดใหญ่ เพื่อเข้ามาร่วมธุรกิจ โดยเริ่มจากการร่วมกันจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นใหม่ คาดว่าความร่วมมือดังกล่าวจะส่งผลให้ APCO มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และนำไปสู่การร่วมตั้งบริษัทภายใต้แนวคิด ผูกพัน แบ่งปัน มั่นคง เพื่อความยั่งยืน และการสร้างประโยชน์ให้สังคม
สำหรับการขยายตลาดในต่างประเทศ การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในประเทศจีน ซึ่งมียอดจำหน่ายค่อนข้างน้อยในเวลา 4 ปีที่ผ่านมา เมื่อเร็วๆ นี้บริษัทได้รับแจ้งจากตัวแทนจำหน่ายว่า จะมีการสั่งผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นประมาณ 2-3 แสนขวด/ปี โดยมีศูนย์จำหน่ายในปักกิ่ง และศูนย์จำหน่ายในเฉินตู
ขณะที่การจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ติดเชื้อ HIV และมะเร็งในประเทศไนจีเรีย ตัวแทนจำหน่ายได้ดำเนินการให้ผู้แทนฑูตพาณิชย์ของไนจีเรีย เข้ามาร่วมวางแผนการจำหน่าย และกำหนดกลยุทธ์การนำผลิตภัณฑ์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในเดือนมิ.ย.นี้ โดยมีเป้าหมายให้เป็นผู้แทนจำหน่ายแต่ผู้เดียวของ APCO ในทวีปแอฟริกา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 พ.ค. 67)
