นายกฯ นัด “พิชัย” ถกเร่งเบิกจ่ายงบฯ บ่ายนี้ ยันปรับ ครม.ไม่ผิดฝาผิดตัว

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ได้เชิญนายพิชัย ชุณหวชิร ว่าที่รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง พร้อมด้วยนางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง มาหารือความจำเป็นเร่งด่วนในการใช้งบประมาณ

*ยันปรับครม.ไม่ผิดฝาผิดตัว

นายกรัฐมนตรี มั่นใจว่า การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งนี้ไม่มีผิดฝาผิดตัว โดยเมื่อบริบทของการเมืองเปลี่ยนแปลงไปในทุกช่วงเวลาของการบริหารประเทศต้องมีการปรับเปลี่ยนบุคลากร ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อให้บุคคลที่เหมาะสมหรือมีความชำนาญมากกว่าในด้านนั้นๆ เข้าไปทำงาน พร้อมยอมรับว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีแรงกระเพื่อม และความไม่พอใจ ส่วนรัฐมนตรีของพรรคที่ถูกปรับออกไปก็ได้มีการพูดคุยเตรียมงานไว้รองรับ โดยไม่มีความขัดแย้งส่วนตัวใดๆ

 

*เคารพการตัดสินใจ “ปานปรีย์”

ส่วนกรณีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร ขอลาออกจากตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ หลังมีการปรับครม. นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตนเคารพการตัดสินใจของนายปานปรีย์ เพราะส่วนตัวรู้จักกันมานานหลายสิบปี ลูกก็เป็นเพื่อนกัน และมีความรักชอบพอกันเป็นอย่างดี แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นก็เคารพการตัดสินใจ ถึงแม้จะได้รับหนังสือลาออกหลังมีการแพร่ทางสื่อก่อนแล้ว

ส่วนกรณีที่นายปานปรีย์ระบุเหตุผลในการลาออก เพราะ รมว.ต่างประเทศ จำเป็นต้องควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีด้วยนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็มีเหตุมีผล แต่หลายหน่วยงานก็ต้องมีการประสานการทำงานร่วมกัน แต่ปัจจุบันมีรองนายกรัฐมนตรี 6 คนแล้ว และเชื่อว่าเพียงพอ หากทุกกระทรวงต้องควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีก็คงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นการควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีจึงอาจไม่จำเป็น แต่ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละบุคคล ซึ่งรัฐบาลนี้ก็มีวิถีการทำงานที่แตกต่างกันไป แต่ขอให้ยึดโยงเป็นมิตร และมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน พร้อมย้ำว่า หากทำผิดหรือทำสิ่งใดไม่พอใจได้ขอโทษไปแล้ว อาจเป็นเรื่องของความเห็นต่าง แต่ทั้งหมดนี้ตนก็รับผิดชอบ และจะดำเนินงานต่อไปด้วยจุดมุ่งหมายคือเอาประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง

นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ตนได้ส่งข้อความถึงนายปานปรีย์ในกลุ่มงานต่างประเทศ ซึ่งได้ขอโทษหากทำให้ไม่สบายใจในเรื่องใดๆ และขอบคุณที่ช่วยงานกันมา การปรับ ครม.ครั้งนี้ได้มีการแจ้งและเชิญรัฐมนตรีมาพูดคุย ซึ่งนายปานปรีย์ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ได้เชิญมาพูดคุย และขอไม่เปิดเผยเพราะเป็นการพูดคุยกันระหว่างบุคคลสองคน

“เรื่องนี้ผมขอพูดเป็นองค์รวม เมื่อมีการปรับเปลี่ยนหน้าที่หรือคณะรัฐมนตรีต่างๆ เชื่อว่ามีคนที่พอใจและไม่พอใจ มีสมหวัง และไม่สมหวัง ดังนั้นจึงอยากโฟกัสในสิ่งที่มีความสัมพันธ์ที่ดีในการทำงานร่วมกันตลอด 7-8 เดือนมากกว่า ซึ่งงานที่ทำมาถือเป็นประโยชน์ให้กับประเทศชาติ และเชื่อว่ารัฐมนตรีคนใหม่ที่จะมาทำหน้าที่แทนจะมาสานต่อในเรื่องที่ดีๆ” นายเศรษฐา กล่าว

 

*ได้ชื่อรมว.ต่างประเทศคนใหม่แล้ว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะนำรายชื่อ รมว.ต่างประเทศคนใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ โดยระหว่างนี้มอบหมายให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ดูแลกระทรวงการต่างประเทศไปพลางก่อน ซึ่งเลือกบุคคลใหม่ได้ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาแต่ยังไม่ได้ทาบทาม เพราะต้องมีการตรวจสอบจากคณะกรรมการคัดกรองเกี่ยวกับเรื่องคุณสมบัติ

สำหรับผู้ที่จะมาเป็น รมว.ต่างประเทศ จะเป็นคนนอกพรรคหรือในพรรคคงพูดลำบาก แต่เป็นผู้ที่อยู่ในแวดวงการทูตและการเมืองมาก่อน โดยอยู่เบื้องหลังการทำงานของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด และจิตวิญญาณยึดโยงกับประชาชน

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 เม.ย. 67)

Tags: , ,
Back to Top