นายแอนโทนี แอลบานีส นายกรัฐมนตรีของออสเตรเลียกล่าวในวันนี้ (27 เม.ย.) ว่า ความรุนแรงต่อสตรีเป็นปัญหาร้ายแรงในออสเตรเลียเช่นเดียวกับโรคระบาด ขณะที่ผู้คนจำนวนมากรวมตัวกันในซิดนีย์และเมืองใหญ่อื่น ๆ ในออสเตรเลีย เพื่อเรียกร้องให้มีการออกกฎหมายต่อต้านความรุนแรงทางเพศที่เข้มงวดยิ่งขึ้น
การชุมนุมดังกล่าวได้รับแรงกระตุ้นจากกระแสความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับสตรี ซึ่งรัฐบาลระบุว่า มีผู้หญิง 1 คนถูกสังหารทุก ๆ 4 วันในปีนี้
นอกจากนี้ การชุมนุมดังกล่าวยังเกิดขึ้นภายหลังจากเกิดเหตุแทงกันจำนวนมากในซิดนีย์ในเดือนนี้ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 รายโดยเป็นผู้หญิงถึง 5 ราย
ผู้ประท้วงที่เรียกร้องให้ออกกฎหมายอาญาที่เข้มงวดยิ่งขึ้นได้มารวมตัวกันในซิดนีย์ เมืองเอกของรัฐนิวเซาท์เวลส์ เพื่อชุมนุมและเดินขบวนไปตามถนนสายต่าง ๆ โดยผู้ประท้วงบางคนถือป้ายที่มีข้อความว่า “เคารพ” และ “ไม่มีความรุนแรงอีกต่อไป”
ในแอดิเลด เมืองเอกของเซาท์ ออสเตรเลียนั้น มีประชาชนราว 3,000 คนเข้าร่วมการชุมนุมที่อาคารรัฐสภา
นายกรัฐมนตรีแอลบานีสกล่าวว่า เขาจะเป็นส่วนหนึ่งของการชุมนุมในกรุงแคนเบอร์รา เมืองหลวงของออสเตรเลียในวันอาทิตย์นี้
“ผมจะเดินไปกับผู้หญิงทั่วออสเตรเลียเพื่อบอกว่า เราพอแล้ว (กับความรุนแรงทางเพศ)” นายแอลบานีสระบุบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 เม.ย. 67)
Tags: ความรุนแรงทางเพศ, ประท้วง, ออสเตรเลีย