BLS โอดวอลุ่มต่ำ SET วูบปัจจัยใน-ตปท.รุมเร้าทำธุรกิจโบรกแย่ ปรับกลยุทธ์ชูกองทุนตปท.-DR

นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บล.บัวหลวง (BLS) และนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย กล่าวว่า บริษัทหลักทรัพย์หรือโบรกเกอร์ได้รับผลกระทบจากวอลุ่มการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยตกต่ำ ซึ่งครึ่งปีหลังปี 66 ตลาดหุ้นแย่ลง และต่อเนื่องมาถึงต้นปี 67 จนปัจจุบัน มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยวันละ 3-4 หมื่นล้านบาทเท่านั้น ทั้งนี้ คาดว่าทั้งปี 67 วอลุ่มซื้อขายจะลดลงเหลือเฉลี่ย 4 หมื่นล้านบาท/วันจากปีก่อนเฉลี่ยอยู่ที่ 6 หมื่นล้านบาท/วัน

เนื่องจากตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยลบทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ตลาดมีความผันผวนมาก อย่างไรก็ดี ในไตรมาส 2 ปัจจัยกดดันเริ่มเบาบาง น่าจะเริ่มมีการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายภาครัฐในเดือนพ.ค.ขณะที่โครงการดิจิทัลวอลเล็ตก็ชัดเจนและจะเริ่มใช้ในไตรมาส 4/67

“โบรกเกอร์ทุกวันนี้เหนื่อยกันหมด ปีที่แล้วงบรัฐไม่ได้ออกมาเลยก็ไปกระทบกับกำไรบริษัทจดทะเบียนลดลง กำไรต่อหุ้น (EPS) ลดลง เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลง ตอนนี้งบเพิ่งออกมาก็ต้องติดตามกันต่อไป เรื่องความเชื่อมั่นก็มีส่วน แต่หากกำไรบริษัทจดทะเบียนดีขึ้น นักลงทุนก็กลับมา เช่นเดียวกับนักลงทุนต่างประเทศ เชื่อว่าหากตลาดหุ้นไทยมี Valuation ที่น่าสนใจถึงจุดราคาถูก เขาก็กลับมา ขณะที่ fund flow ไหลไปลงทุนประเทศที่มีผลตอบแทนดีกว่าไทย”นายพิเชษฐ์ กล่าว

ด้านนายพิริยพล คงวาณิช ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์พื้นฐานสายงานวิจัย บล.บัวหลวง กล่าวว่า ปัจจัยลบหุ้นไทยตอนนี้หายไปแล้ว ทั้งเรื่องงบประมาณเบิกจ่ายที่จะเริ่มพ.ค. ความชัดเจนเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต และ คาดการณ์ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. ดังนั้น จึงมองว่าตลาดหุ้นน่าจะผ่านจุดต่ำสุดแล้ว ยกเว้นระยะต่อไป หากผลประกอบการ (Earning) ของบริษัทจดทะเบียนต่ำกว่าคาด อาจกลับมากดดันตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง

ทั้งนี้ บล.บัวหลวงได้ปรับคาดการณ์กำไรต่อหุ้น (EPS) ในปี 67 ที่ 92 บาท/หุ้นจากต้นปีคาดไว้ที่ 95 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้นจากปี 66 ที่มี EPS ที่ 76 บาท/หุ้น ส่วนเป้าหมายดัชนี SET ในปี 67 ให้ที่ 1,539 จุด แต่ในช่วงไตรมาส 2/67 คาดดัชนีแกว่งในกรอบ 1,330-1,430 จุด หรือหากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านไม่มีความรุนแรงก็คงไม่หลุดไป 1,300 จุด

ขณะที่คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือน ก.ค. และปรับลง 3 ครั้ง จากที่ตลาดคาดไว้ 2 ครั้ง น้ำมัน Brent คาดไว้ที่ 90-100 เหรียญ/บาร์เรล ภาพเงินเฟ้อเป็นขาลง

ในช่วงครึ่งปีหลัง แนะนำกลุ่มค้าปลีก รับเหมา ส่วนกลุ่มธุรกิจที่ยังมีทิศทางไม่ค่อยดี ได้แก่ กลุ่มปิโตรฯ กลุ่ม Auto ซึ่งมีโอกาสราคาปรับตัวลงได้อีก

*BLS หนีหุ้นไทยเสนอลูกค้ากระจายไปกองทุนตปท.-DR

นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการอาวุโส กิจการค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ปัจจุบันลูกค้า Active มีจำนวนลดลงมาที่ 80,000 ราย/เดือน จากต้นปี 66 มีอยู่ 150,000 ราย/เดือน จากบัญชีลูกค้าทั้งหมด 680,000 บัญชี ซึ่งยอมรับว่าลูกค้ารายย่อยหายไปค่อนข้างมาก จากตลาดหุ้นไม่เป็นใจ ไม่สามารถทำกำไรได้

ดังนั้น บล.บัวหลวง หารายได้อื่นเข้ามาเสริมธุรกิจโบรกเกอร์ โดยได้เปิดทางเลือกลงทุนให้กับลูกค้า นำเสนอลงทุนต่างประเทศผ่านกองทุนรวมที่ลงทุนในหลายประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยง โดยได้ออก “BLS Top Fund Port” ที่บล.บัวหลวงเป็นตัวแทนขายให้กับ 17-18 บลจ.อยู่แล้ว ซึ่งจะช่วยคัดเลือกกองทุนและคอยรีบาลานซ์ตามภาวะตลาด ทำให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดี ปัจจุบัน BLS เปิดตัวตั้งแต่ปีที่แล้ว ปัจจุบัน มีลูกค้ากลุ่มนี้ประมาณ 600 คน มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) เกือบ 700 ล้านบาท

นอกจากนี้การนำเสนอกลยุทธ์ลงทุนแบบใหม่ ชื่อ DCA MIX ที่สามารถเลือกลงทุน DR หรือ ETF เฉลี่ยทุกเดือน โดยลงทุน DR ที่เป็นตัวแทนดัชนีตลาดหุ้นในหลายประเทศ ซึ่ง DR ที่บล.บัวหลวงเป็นผู้ออกมีอยู่ 10 ตัว

และ Structured Note หรือหุ้นกู้อนุพันธ์ ซึ่งเริ่มเมื่อต้นปีที่แล้ว เจาะกลุ่ม High Networth สามารถให้ผลตอบแทนในแง่ดอกเบี้ย ซึ่งได้ผลตอบแทนสูงถึง 11% ต่อปี ท่ามกลางตลาดผันผวน โดยปัจจุบัน BLS มีส่วนแบ่งตลาดนี้ 10-15% ในปีนี้ BLS รุกขยายฐานลูกค้าที่เคยลงทุนหรือลงทุนหุ้นกู้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 เม.ย. 67)

Tags: , , ,
Back to Top