นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai ยินดีต้อนรับ บมจ.สโตนวัน เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “STX” ในวันที่ 26 เมษายน 2567
STX และบริษัทย่อยประกอบธุรกิจเหมืองหินและแร่ รวมถึงให้บริการขนส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าที่ไซต์งานอย่างครบวงจร โดยมีประทานบัตรเหมือง 2 แห่ง ประกอบด้วย 1) เหมืองหนองข่า อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ผลิตหินแกรนิต ซึ่งใช้ในการก่อสร้างอาคาร ถนน จำหน่ายให้กับลูกค้าแถบจังหวัดชลบุรี รวมถึงพื้นที่เขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก EEC และ 2) เหมืองจอมบึง อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ผลิตและจำหน่ายหินปูนและแร่โดโลไมต์ ซึ่งใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ซีเมนต์ งานผลิตแก้ว ปรับสมดุลดินหรือบำบัดน้ำ เป็นต้น
เมื่อสิ้นปี 66 เหมืองทั้ง 2 แห่ง มีปริมาณสำรอง 1.17 และ 13.82 ล้านตัน จะทำให้ปริมาณสำรองในการผลิตหมดภายในปี 2568 และ ปี 2573 ตามลำดับ โดยในปี 2566 กลุ่มบริษัทมีโครงสร้างรายได้แยกตามรายผลิตภัณฑ์ได้แก่ หินแกรนิต : หินปูน : แร่โดโลไมต์ สัดส่วน 33 : 55 : 12 ตามลำดับ
STX มีทุนชำระแล้วหลังเสนอขาย 307.13 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 242.13 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 65 ล้านหุ้น โดยเป็นการเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์จำนวน 64 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัท 0.50 ล้านหุ้น และกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน 0.50 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 18-19 เมษายน และ 22 เมษายน 2567 ในราคาหุ้นละ 3.00 บาท คิดเป็นมูลค่าการเสนอขาย IPO 195 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 921.40 ล้านบาท
ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO พิจารณาอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio: P/E Ratio) เท่ากับ 24.22 เท่า ซึ่งคำนวณจากกำไรสุทธิ 12 เดือนย้อนหลัง (งวดปี 2566) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (fully diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.12 บาท โดยมี บล.ไอ วี โกลบอล เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายทรงวุธ เวชชานุเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร STX เปิดเผยว่า บริษัทกำหนดเป้าหมายในการขยายแหล่งวัตถุดิบและการผลิต เพื่อต่อยอดธุรกิจให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค ด้วยหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทจะนำไปลงทุนหรือซื้อธุรกิจเหมืองหินและแร่ หรือใช้ในการก่อสร้างโรงงาน เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
STX มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO คือ กลุ่มตระกูล ดร.จเรรัฐ ปิงคลาศัย ถือหุ้นร้อยละ 34.86 กลุ่มตระกูลอะโน ถือหุ้นร้อยละ 33.56 และนายสยาม วัชรปรีชา ถือหุ้นร้อยละ 3.91 บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองตามกฎหมาย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 เม.ย. 67)
Tags: IPO, mai, STX, ประพันธ์ เจริญประวัติ, สโตนวัน, หุ้นไทย, หุ้นไอพีโอ