นายราชีพ จาบา ซีอีโอบริษัท เอ็มจี มอเตอร์ อินเดีย (MG Motor India) กล่าวว่า ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในอินเดียยังขาดการแข่งขัน และการที่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลกอย่างเทสลา (Tesla) รุกเข้าสู่ตลาดอินเดีย จะช่วยยกระดับการแข่งขันในตลาด
นายจาบาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวของซีเอ็นบีซีในอินเดียว่า “ณ ตอนนี้ การแข่งขันยังจำกัดอยู่ และยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าก็อยู่ในวงจำกัด เนื่องจากผู้บริโภคไม่มีตัวเลือกที่ดึงดูดใจ”
เบน แอนด์ คัมพานี (Bain & Company) บริษัทให้คำปรึกษาด้านการจัดการชั้นนำ เปิดเผยข้อมูลว่า รถยนต์ไฟฟ้าคิดเป็นสัดส่วนราว 5% ของอุตสาหกรรมยานยนต์อินเดีย
นายจาบากล่าวว่า การที่รัฐบาลอินเดียตั้งเป้าให้ 30% ของยอดขายรถทั้งหมดเป็นรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2573 ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากในตอนนี้ แต่เป้าหมายราว 20%-30% อาจพอเป็นไปได้หากรัฐบาลมีนโยบายเพิ่มเติมเพื่อดึงดูดผู้ผลิตรถยนต์จากต่างประเทศ
เขาเสริมว่า หากตลาดอินเดียดึงดูดความสนใจได้ ผู้ประกอบการและเงินลงทุนก็จะไหลเข้ามาเรื่อย ๆ ขณะที่การเข้ามาของเทสลาจะมีส่วนช่วยในการพัฒนาระบบนิเวศของตลาด ด้วยการดึงดูดผู้บริโภคให้หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เมื่อเดือนมี.ค. รัฐบาลอินเดียได้ประกาศลดภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าบางรุ่นลงสู่ระดับ 15% หากผู้ผลิตรถยนต์มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่กำหนด จากที่ปัจจุบันอินเดียเรียกเก็บภาษีนำเข้า 70% หรือ 100% สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจากต่างประเทศ
นโยบายใหม่ของอินเดียระบุว่า ผู้ผลิตรถยนต์ที่ลงทุนอย่างน้อย 500 ล้านดอลลาร์ และสร้างโรงงานผลิตในอินเดียภายใน 3 ปี จะได้รับสิทธิ์นำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าราคา 35,000 ดอลลาร์ขึ้นไป เป็นจำนวนสูงสุด 8,000 คันต่อปี ในอัตราภาษีที่ต่ำลง
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นข่าวดีสำหรับเทสลาที่พยายามบุกเข้าสู่ตลาดอินเดียมาโดยตลอด และได้พยายามวิ่งเต้นเพื่อให้ได้ลดภาษีนำเข้ามานานหลายปีแล้ว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 เม.ย. 67)
Tags: EV, รถยนต์ไฟฟ้า, อินเดีย, เทสลา, เอ็มจี