นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่า ราคาทองคำในตลาดโลกได้ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยการปรับขึ้นมาส่วนหนึ่งมาจากความกังวลต่อสถานการณ์ระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านว่าอาจจะรุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตามการปรับตัวขึ้นมาของราคาทองคำจากปัจจัยนี้ถือเป็นการปรับขึ้นแบบ Panic Buy ที่ขึ้นอยู่กับความกังวลว่าสถานการณ์อาจรุนแรงมากยิ่งขึ้น
ดังนั้น แม้สถานการณ์ยืดเยื้อ แต่ไม่ได้มีสัญญาณความรุนแรงที่มากขึ้น หรือ ไม่ได้มีความเสียหายมากนัก ทองคำอาจเกิดแรงขาย Sell on fact ในภายหลัง เช่นเดียวกับความขัดแย้งระหว่าง รัสเซีย-ยูเครน
อย่างไรก็ดี เหตุการณ์นี้ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้ว่าจะพัฒนาไปในรูปแบบใด ดังนั้นในมุมกลับกันก็มีความเป็นไปได้ที่สถานการณ์รุนแรงมากขึ้น หรือถึงขั้นที่สหรัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับสงครามโดยตรง ในลักษณะที่คล้ายคลึงกับสองครั้งล่าสุด ในสงครามอิรัก–คูเวต ที่สหรัฐเข้าร่วมด้วย หรือวินาศกรรม 9/11 ความรุนแรงในระดับดังกล่าวอาจหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นได้ต่อ
จากการประเมินปัจจัยลบและปัจจัยบวกที่มีในปัจจุบัน วายแอลจี ได้ปรับเป้าหมายราคาทองคำในปีนี้ใหม่เป็น 2,500 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ เนื่องจากหากพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานที่ไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความไม่สงบข้างต้น ก็ยังมีปัจจัยสนับสนุนทองคำที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะความต้องการทองคำในระยะยาวที่มั่นคงของธนาคารกลางทั่วโลกกว่า 1,000 ตันต่อปีเป็นแรงหนุนสำคัญ
นอกจากนี้ยังมีประเด็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่หากภายในปีนี้สามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงได้ถึง 3 ครั้ง ก็จะส่งผลให้ราคาทองคำมีโอกาสปรับขึ้นไปถึง 2,700 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์
อย่างไรก็ดี ในระยะสั้นทองคำอาจมีความเสี่ยงและความผัวผวน ทำให้ราคาปรับตัวลดลงมาได้บ้าง แต่เชื่อว่าจะสามารถยืนได้เหนือ 2,200 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ดังนั้นนักลงทุนที่ต้องการเข้าซื้อ สามารถรอเข้าซื้อได้ที่ระดับดังกล่าว ส่วนราคาทองคำในประเทศสามารถเข้าซื้อได้ที่โซนราคา 39,000-38,500 บาทต่อบาททองคำ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 เม.ย. 67)
Tags: YLG, พวรรณ์ นววัฒนทรัพย์, ราคาทองคำ, วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล, อิสราเอล, อิหร่าน