ผู้บริหารองค์การอนามัยภาคพื้นอเมริกา (PAHO) เปิดเผยในวันพฤหัสบดี (18 เม.ย.) ว่า การระบาดของโรคไข้เลือดออกได้ก่อให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินในทวีปอเมริกา แม้ผู้ติดเชื้อในอาร์เจนตินาและบราซิลดูเหมือนจะทรงตัวแล้วก็ตาม
PAHO ซึ่งเป็นหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ (UN) รายงานว่า พบผู้ป่วยไข้เลือดออกกว่า 5.2 ล้านรายทั่วทวีปอเมริกาในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 48% จาก 3.5 ล้านรายที่รายงานเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา
ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากไข้เลือดออกในปีนี้ทะลุ 1,800 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากยอดผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 รายในไตรมาส 1/2567 (ม.ค.-มี.ค.) ที่รายงานเมื่อเดือนที่แล้ว
“เรากำลังเผชิญกับสถานการณ์ฉุกเฉิน” นายแพทย์จาร์บาส บาร์โบซา ดา ซิลวา ผู้อำนวยการ PAHO กล่าวแถลงต่อสื่อมวลชน
นายบาร์โบซาระบุว่า บราซิล และอาร์เจนตินา เป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการระบาดในปัจจุบัน และยังคงเผชิญการระบาดที่รุนแรง แต่กล่าวเสริมว่า ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ยอดผู้ป่วยในประเทศเหล่านี้ดูเหมือนจะเริ่มทรงตัว หรือแม้แต่กระทั่งลดลง
นายบาร์โบซากล่าวเตือนว่า วัคซีนไข้เลือดออกที่มีอยู่นั้นมีจำนวนจำกัดมาก และแม้ว่าจะมีการฉีดวัคซีนเป็นวงกว้างก็ไม่สามารถหยุดยั้งการแพร่ระบาดที่กำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบันได้แบบทันทีทันใด
“วัคซีนไข้เลือดออกนั้นสามารถลดการเสียชีวิตที่รุนแรง แต่อาจจะต้องใช้เวลากว่าจำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออกจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด” นายบาร์โบซากล่าวเสริม
ทั้งนี้ อาการของโรคไข้เลือดออก ได้แก่ มีไข้สูง ปวดศีรษะ อาเจียน มีผื่นที่ผิวหนัง ตลอดจนปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและข้อ ในบางกรณี อาจส่งผลให้เลือดออกจนเสียชีวิตได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 เม.ย. 67)
Tags: ทวีปอเมริกา, บราซิล, อาร์เจนตินา, โรคไข้เลือดออก