เช้านี้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสมชาย และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ มาร่วมรับประทานข้าวชอยเจ้าดังที่ จ.เชียงใหม่ เสร็จ ก็ได้เดินทางมาที่ วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อร่วมทำบุญ สวดมนต์ รับพร นายทักษิณกล่าวว่าในช่วงเย็นวันนี้ (14 เม.ย.) จะไปรับประทานอาหารเย็นที่ร้านเลอค็อกดอร์ ซึ่งเป็นร้านเก่าแก่ ตั้งแต่สมัยที่ตนเป็นนายกฯ ซึ่งตอนนี้ก็ยังอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่าความรู้สึกเมื่อได้กลับมาเล่นสงกรานต์ที่จ.เชียงใหม่ในรอบหลายปี นายทักษิณ กล่าวว่า หายไป 18 ปี ก็รู้สึกม่วนอกม่วนใจ๋ จิตใจสบาย สงบ เพราะกลับมาแล้วก็อยากสงบ อยากใช้ชีวิตเรียบง่าย และการขอพรในวันนี้คือเมื่อไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ตนก็สักการะ ด้วยความเคารพบูชาจะไม่ค่อยเรียกร้องอะไร เพราะเมื่อเราเกิดมาแล้ว พระเจ้าลิขิตไว้แล้วว่าจะมีอะไร
เมื่อถามว่า วันนี้เป็นวันครอบครัวเมื่อได้กลับมาอยู่กับครอบครัวรู้สึกอย่างไร นายทักษิณ กล่าวว่า อบอุ่น เจอคนไทย ประเพณีวัฒนธรรมไทย อาหารไทย พี่น้องเพื่อนฝูง สื่อมวลชนคนไทย ก็มีความสุข ดีกว่าอยู่เมืองนอกเยอะ
สงกรานต์ที่เชียงใหม่เช่นนี้ คิดถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ เพราะปกติในเทศกาลสงกรานต์จะอยู่ด้วยกัน นายทักษิณ กล่าวว่า “นายกฯ ปู อวยพรสงกรานต์ก่อนที่ผมจะเดินทางมาเชียงใหม่ ก็เลยบอกเดี๋ยวปีหน้า เรามาทำบุญด้วยกัน สงกรานต์ปีหน้า นายกฯ ปูคงได้มีโอกาสมาทำบุญ”
เมื่อถามย้ำ ว่าเป็นข่าวดีใช่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ตอนที่ตนจะเดินทางกลับ ก็มีความมุ่งมั่นว่าอยากกลับบ้าน แต่ไม่รู้ว่ากลับอย่างไร เมื่อไหร่ ซึ่งก็คิดแต่วันแรกที่ออกไปว่าจะต้องกลับให้ได้ ไม่รู้แต่จะอย่างไรก็ไม่รู้ เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ อยากกลับอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์มีบ่นว่าเหงาบ้างหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ก็มีบ้างแหละ แต่ต่างคนต่างมีภารกิจ เกี่ยวกับบ้านเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ห่วงบ้านเมืองเช่นเดียวกัน ก็ช่วยกันคิดช่วยกันทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่พวกเราเป็นรัฐบาล ก็ให้ความเห็น ส่วนจะกลับมาช่องทางไหนนั้นยังไม่ทราบ เอาความตั้งใจก่อน และในส่วนของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ค่อยซับซ้อนเหมือนของตน ของตนเขายัดให้เยอะ ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ มีแค่อันเดียว
ถามย้ำว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะกลับมาภายในปีนี้หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ก็ตั้งใจอย่างนั้น แต่ยังไม่รู้จะอย่างไร เดี๋ยวดูเหตุการณ์ก่อน
เมื่อถามว่า จะเป็นเดือนตุลาคม ปี 67 ใช่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่รู้ แต่ตั้งใจ เมื่อถามว่า หากกลับมา 2 คนกังวลว่ามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ทุกอย่างมีเหตุผล คุณอยากวิจารณ์ เขาก็วิจารณ์ไป แต่เราต้องมีเหตุผลของเราตอบสังคมส่วนใหญ่ได้ สังคมส่วนน้อยก็มีบ้างเป็นธรรมดา ไม่มีใครพอใจ แม้กระทั่งบางคนอยู่บ้านเดียวกันพ่อแม่ลูก บางทีลูกทำอะไรพ่อแม่อาจไม่พอใจ เป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่มีข้อยุติร่วมกันทั้งหมด
ส่วนที่จะมีรัฐมนตรีหลายท่านมาพบด้วยนั้น มีนัยยะทางการเมืองอะไรหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่หรอก มันเป็นประเพณี โดยเฉพาะตนเป็นคนเชียงใหม่ ประเพณีสงกรานต์เขาก็มารดน้ำดำหัวเป็นเรื่องปกติ ตนอายุ 75 แล้ว พวกที่อยู่ทั้งหลายตอนนี้อายุน้อยกว่าตนทั้งนั้น ที่อายุเยอะกว่าเห็นจะมีแค่ท่านสมศักดิ์ พงษ์พานิช ส่วนที่หลายคนมองว่าหากใครไม่มาเช็คชื่อ ก็คงไม่เป็นแบบนั้น ตนเป็นคนไม่จุกจิก และไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับท่านนายกฯ ซึ่งนายกฯ จะเป็นคนตัดสินใจเองว่าใครจะอยู่ใครจะไป
เมื่อถามว่า จะพูดอย่างไรให้รัฐมนตรีที่เข้าใจผิด ว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) จนต้องวิ่งเข้าหา นายทักษิณ กล่าวว่า “Nothing is permanent” ไม่มีอะไรเป็นสรณะ เพราะมันก็มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป มีตำแหน่งแล้วต้องหมดตำแหน่งก็เป็นเรื่องธรรมดาอย่าคิดอะไรมาก ระหว่างที่มีตำแหน่งอยู่ก็ทำให้ดีที่สุด สร้างชื่อเสียงให้กับบ้านเมืองไป
เมื่อถามว่า มีการมองว่านายทักษิณกลับมาจะเป็นศูนย์กลางอำนาจ นายทักษิณ กล่าวว่า เป็นศูนย์กลางของคนแก่ที่พวกรุ่นน้องๆ อยากมาปรึกษาหารือ ตอนนี้อายุ 75 ปีแล้ว เผลอแป๊บเดียวกลายเป็นคนแก่สุดแล้ว ถือว่าวันนี้เริ่มเข้าวัยเบญจเพส อีก 25 ปี ก็ครบ 100
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่พรรคประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมรัฐบาล และมีการโยงชื่อของนายทักษิณว่าเป็นผู้คุยดีลนี้ นายทักษิณ ย้อนถามว่า “เหรอครับ ก็รู้จักกันทั้งนั้น ก็คุยการเมืองกัน หลายคนอยากทำงานให้บ้านเมืองแต่บางครั้งทุกอย่างก็มีจำกัด เก้าอี้รัฐมนตรีก็มี 36 รวมทั้งนายกฯ ด้วย ก็ต้องมีจำกัด ส่วนมีความเป็นไปได้หรือไม่ ตนไม่ทราบ ขอให้ไปถามนายกฯ ซึ่งการพบกับคนของพรรคประชาธิปัตย์ก็กินกาแฟกันธรรมดา อย่างนายเดชอิศม์ ขาวทอง ซึ่งปัจจุบันเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ก็เคยเป็นผู้สมัครสส.พรรคไทยรักไทย สมัยที่ตนเป็นหัวหน้าพรรคใหม่ๆ ก็เลยรู้จักกัน
เมื่อถามย้ำว่า แล้วที่คุยนั้นคุยกับหัวหน้าพรรคหรือเลขาธิการพรรคหรือใคร นายทักษิณ ระบุว่า ไม่ ตนก็คุยกับคนรู้จัก
ต่อมา นายทักษิณได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่า วันนี้มีพรรคพวกชวนตนไปดูคอนเสิร์ต ตนก็จะไปดูว่าชีวิตของคนเชียงใหม่กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างไร เวลามาเที่ยวสงกรานต์แล้วสนุกสนานแบบไหน ตนจะได้เข้าใจเขามากขึ้น ซึ่งตนห่างประเทศไทยไปนาน ก็ขอไปทำความเข้าใจให้มากขึ้น
“ขณะนี้อาการป่วยของผมดีขึ้นมาก ได้กลับมาอยู่บ้านภาวะจิตใจก็ดี ความพร้อมในการออกกำลังให้ร่างกายฟื้นตัวก็มีมากขึ้น อยู่ที่โรงพยาบาลไม่มีจิตใจที่จะทำอะไร” นายทักษิณ กล่าว
เมื่อถามว่า ภาพที่ออกมามักจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ นายทักษิณ กล่าวว่า “ไม่เป็นไร ป่วยก็อยากจะหาย หวังว่าคนที่วิจารณ์ผม เวลาเจ็บป่วยเขาก็คงอยากหายเหมือนผม หายแล้วก็ควรจะดีใจ อย่าไปซ้ำเติมเขา”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 เม.ย. 67)
Tags: ทักษิณ ชินวัตร, ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร