สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นในวันศุกร์ (12 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำมัน แต่สัญญาน้ำมันปรับตัวลงในรอบสัปดาห์นี้หลังสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์แนวโน้มอุปสงค์น้ำมันโลกที่ซบเซา และถูกกดดันจากแนวโน้มที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงน้อยกว่าคาดในสหรัฐ
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 64 เซนต์ หรือ 0.75% ปิดที่ 85.66 ดอลลาร์/บาร์เรล และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 71 เซนต์ หรือ 0.79% ปิดที่ 90.45 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงมากกว่า 1% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลง 0.8%
ราคาน้ำมันปรับตัวอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนจากความวิตกว่า อิหร่านซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 3 ของกลุ่มโอเปก อาจตอบโต้ต่อการที่อิสราเอลโจมตีสถานทูตของอิหร่านในซีเรียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น แม้ IEA ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันโลกในปีนี้ลงเหลือ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่กลุ่มโอเปกเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกอาจเพิ่มขึ้น 2.25 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งให้บริการด้านพลังงานเปิดเผยว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซซึ่งบ่งชี้ผลผลิตน้ำมันในอนาคตนั้น ลดลง 3 แท่น สู่ระดับ 617 แท่นในรอบสัปดาห์ที่นับถึงวันที่ 12 เม.ย. ซึ่งเป็นจำนวนต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2566
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 เม.ย. 67)
Tags: น้ำมัน WTI, น้ำมันดิบ, ราคาน้ำมัน