องค์การการค้าโลก (WTO) ออกรายงานคาดการณ์ว่า การค้าโลกจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปีนี้ ก่อนจะปรับตัวขึ้นต่อไปในปี 2568 เนื่องจากผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นนั้นได้บรรเทาลง
ทั้งนี้ WTO ได้เผยแพร่รายงาน “Global Trade Outlook and Statistics” ในวันพุธ (10 เม.ย.) โดยคาดการณ์ว่า ปริมาณการค้าโลกจะขยายตัว 2.6% ในปี 2567 และเพิ่มขึ้นอีก 3.3% ในปี 2568 หลังจากลดลงมากกว่าคาด 1.2% ในปี 2566 เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ
นายราล์ฟ ออสซา หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ WTO เปิดเผยกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า “เหตุผลของการฟื้นตัวครั้งนี้มีสาเหตุหลักมาจากการปรับอัตราเงินเฟ้อและนโยบายการเงินให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากส่งผลกระทบอย่างมากต่อการค้าในปี 2566”
การฟื้นตัวของการค้าโลกคาดว่าจะเกิดขึ้นเป็นวงกว้างครอบคลุมทั่วยุโรปซึ่งเผชิญกับปริมาณการค้าที่ลดลงอย่างมากในปีที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงวิกฤตพลังงานที่เกิดจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน
รายงานของ WTO ระบุว่า การค้าโลกมีความสามารถในการฟื้นตัวอย่างน่าทึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้นแซงระดับสูงสุดก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปลายปี 2566 อย่างไรก็ตาม WTO เตือนว่าความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์อาจยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อแนวโน้มในอนาคต
นายออสซากล่าวว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสอาจส่งผลให้เกิดการหยุดชะงักทางการค้าครั้งใหญ่ หากสงครามลุกลามเข้าสู่ตลาดพลังงาน
นอกจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์ยังเน้นย้ำถึงสัญญาณการแบ่งแยกของการค้าโลกตามเส้นภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่าง 2 ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกได้แก่ สหรัฐและจีน
“เราเห็นการเติบโตทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนชะลอตัวลง 30% เมื่อเทียบกับการเติบโตทางการค้าระหว่าง 2 ประเทศนี้กับประเทศอื่น ๆ” นายออสซากล่าว โดยหมายถึงช่วงเวลานับตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มมีความตึงเครียดทางการค้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 เม.ย. 67)
Tags: WTO, องค์การการค้าโลก, อัตราเงินเฟ้อ, เงินเฟ้อ