นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยเช้านี้ดัชนีแกว่งไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์อัพ ซึ่งสัปดาห์นี้มีประเด็นที่คาดว่าเป็นบวกต่อตลาด อาทิ การประชุมครม.วันนี้ น่าจะมีการเคาะมาตรการที่เกี่ยวข้องกับภาคอสังหาฯ และในวันพรุ่งนี้การประชุมกนง.ซึ่งคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยแต่เสียงคงอัตราดอกเบี้ยอาจก้ำกึ่งมากขึ้น ทำให้นักลงทุนคาดว่าในอนาคตอาจมีการลดอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งการประชุมบอร์ดดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งคาดว่าจะออกมาในโทนบวกต่อตลาด พร้อมทั้งให้กรอบแนวรับ 1,365 – 1,370 จุด และแนวต้าน 1,380 – 1,385 จุด
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีแกว่งไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์อัพ คาดว่านักลงทุนจะกลับเข้าสู่ตลาดบางส่วนแม้บางส่วนจะหยุดต่อเนื่องถึงสงกรานต์ ซึ่งสัปดาห์นี้มีหลายปัจจัยที่น่าติดตามซึ่งคาดว่าจะเป็นบวกกับตลาด อาทิ การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ น่าจะมีการเคาะมาตรการที่เกี่ยวข้องกับภาคอสังหาฯ
ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งมองว่าน่าจะคงอัตราดอกเบี้ย แต่มติคงอัตราดอกเบี้ยอาจก้ำกึ่งมากขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนเชื่อว่าในอนาคตอาจมีการลดดอกเบี้ย ทำให้มีแรงเก็งกำไรหุ้นที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มไฟแนนซ์ กลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยลดลง อาทิ กลุ่มอสังหาฯ รวมทั้งการประชุมบอร์ดดิจิทัลวอลเล็ต หากมีความชัดเจนในแหล่งที่มาเงิน หรือขนาดของโครงการ ทั้งนี้คาดว่าจะออกมาเป็นโทนบวกกับตลาด หนุนกลุ่มค้าปลีกซึ่งน่าจะเลือกเก็งกำไรได้
โดยให้กรอบแนวรับ 1,365 – 1,370 จุด และแนวต้าน 1,380 – 1,385 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (8 เม.ย.)ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,892.80 จุด ลดลง 11.24 จุด หรือ -0.03%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,202.39 จุด ลดลง 1.95 จุด หรือ -0.04% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,253.96 จุด เพิ่มขึ้น 5.44 จุด หรือ +0.03%
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 39,496.95 จุด เพิ่มขึ้น 149.91 จุด หรือ +0.38% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งเปิดตลาดที่ระดับ 16,819.18 จุด เพิ่มขึ้น 86.33 จุด หรือ +0.52% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดตลาดที่ระดับ 3,044.61 จุด ลดลง 2.44 จุด หรือ -0.08%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (5 เม.ย.) 1,375.58 จุด เพิ่มขึ้น 1.69 จุด (+0.12%) มูลค่าการซื้อขาย 26,897.11 ล้านบาท
– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,210.67 ล้านบาท (5 เม.ย.)
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. (8 เม.ย.) ลดลง 48 เซนต์ หรือ 0.55% ปิดที่ 86.43 ดอลลาร์/บาร์เรล
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (8 เม.ย.) อยู่ที่ 4.34 เหรียญ/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 36.71 รอลุ้นผลประชุมกนง.-บอร์ดดิจิทัลวอลเล็ตสัปดาห์นี้
– คลังชงประชุม ครม.คลอดแพ็กเกจกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ลดค่าธรรม เนียมการโอน-จดจำนองให้บ้านราคาไม่เกิน 7 ล้าน รองโฆษก พท.หนุน “ซื้อ-สร้างซ่อม” ที่อยู่อาศัยกระตุ้นเศรษฐกิจ จี้ “แบงก์ชาติ” ปรับลดดอกเบี้ยตามเสียงเรียกร้อง “ก้าวไกล” ดักคอ “เศรษฐา” หวังระบายสต๊อก เตือนผุดนโยบายเอื้อกลุ่มทุนพันตัว ชี้คนที่ได้ประโยชน์คือกำลังซื้อต่างชาติ แนะควรเริ่มจากบ้านราคาถูกกลางเมืองจับต้องได้
– “นักเศรษฐศาสตร์” ฟันธง กนง. “ลดดอกเบี้ย” 10 เม.ย. นี้ “ซีไอเอ็มบีไทย” ชี้ควร “ลด” พยุงเศรษฐกิจระยะสั้น – ยาว “กรุงไทย” หวังลดดอกเบี้ยสร้างบรรยากาศลงทุน-ลดตึงเครียดปัญหาหนี้ “อีไอซี” เชื่อปีนี้ กนง. ลดดอกเบี้ยต่อเนื่องสองครั้งติดเหลือ 2% เดือนมิ.ย.ให้สมดุลเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวต่ำ “เกียรตินาคินภัทร” เผยแม้มีเหตุให้ลด แต่คาดครั้งนี้ กนง. ไม่รีบหวังรอความชัดเจน “ดิจิทัลวอลเล็ต” และตัวเลขเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกปี 67 ก่อนตัดสินใจลดมิ.ย. นี้
– “เงินบาท” ทำสถิติอ่อนค่าสุดรอบ 6 เดือนครั้งใหม่ที่ระดับ 36.81 บาทต่อดอลลาร์ รอผลประชุมกนง. 10 เม.ย. 67 “กรุงศรี” คาดคงดอกเบี้ยระดับ 2.5% มองเงินบาททรงตัว หากหั่นดอกเบี้ย 0.25% นำเฟด “กดดัน” เงินบาทอ่อนค่าต่อ แต่เชื่อสิ้นปีนี้พลิกแข็งค่าแตะ 34.75 บาทต่อดอลลาร์ มองเฟดลดดอกเบี้ยมากกว่าไทย-ท่องเที่ยวขยายตัว “กรุงไทย” คาด กนง. ยังคงดอกเบี้ยรอบนี้ ลุ้นส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้ง กดดันบาทอ่อนค่าต่อได้สูงสุดที่ 37.25 บาทต่อดอลลาร์
– “เศรษฐา” บอกถามเรื่องปรับ ครม.ตรงๆ ได้เลย ชี้ไม่ว่าปรับเล็กหรือปรับใหญ่เวลาเหมาะสมเกิดขึ้นแน่ คุยให้เกียรติเพื่อนร่วมงานตั้งแต่เป็นนักธุรกิจมีอะไรปรึกษาก่อน แต่คนจรดปากกาคือตน เอง “วิทยา” เชื่อปรับเฉพาะในเพื่อไทย เพราะ มีคนเหมาะสมและตกขบวนเยอะ “ปชป.” เดือดขู่ไล่เชาว์พ้นสมาชิกพรรค “เสี่ยนิด” ทัวร์นครศรีธรรมราชวันสุดท้าย “ชัยชนะ” โผล่ต้อนรับบอกอย่าโยงการเมืองถือเป็นการทำหน้าที่ สส.ต้อนรับนายกฯ “เศรษฐา” ลั่นเป็นผู้นำคนทั้งประเทศไม่แบ่งฝักฝ่าย
– “แบงก์ชาติ” ลุย “แก้หนี้เรื้อรัง” สั่งแบงก์ติดต่อลูกหนี้ เพื่อรับทราบเข้าหลักเกณฑ์เป็นหนี้เรื้อรัง ก่อน 30 เม.ย. นี้ สุ่ม “แบงก์-นอนแบงก์” ติดต่อหรือช่วยลูกหนี้จริงหรือไม่ ย้ำหากไม่ทำตามเงื่อนไขมีบทลงโทษ “ทีทีบี” ชี้มีลูกหนี้เรื้อรังราว 1 หมื่นคน “กสิกรไทย” ชี้ช่วยปัญหาลดหนี้เรื้อรัง “กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์” เผยลูกค้าเข้าข่ายหนี้เรื้อรัง 7% จ่อเพิ่มโปรแกรมช่วยผ่อน 5 ปี ดอกเบี้ย 15%
– นายกฯ เรียกถกด่วน “กต.-บิ๊กเหล่าทัพ” วันนี้ ประเมินสถานการณ์เมียนมา และกำหนดแนวทางดำเนินการของไทย ขณะที่ กต.แจงปมเที่ยวบินพิเศษจากเมียนมา เป็นการตัดสินใจอนุมัติตามคำขอในระดับรัฐบาล ล่าสุด แจ้งยกเลิกไฟล์ต 8-9 เม.ย. ยืนยันไม่เลือกปฏิบัติ-ไม่อนุญาตขนอาวุธเข้าไทย ขณะที่ “2 แกนนำ” พรรคฝ่ายค้านเรียกร้องรัฐบาลชี้แจงรายละเอียด
– ปลัดคลังเผย นายกรัฐมนตรีจี้ให้ ก.ล.ต.-ตลท. ร่วมกันเร่งสางคดีเกี่ยวกับหุ้น ลั่นต้องรู้วันจบ สร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน หลังตลาดซบเซาชี้เป็นหนึ่งในเหตุเงินไหลออก แนะเลือกสินค้าดีเข้าตลาด รองรับฮับดิจิทัลภูมิภาค ด้านนักวิเคราะห์ชี้นักลงทุนกังวลไทยหยุดยาวท่ามกลางความไม่แน่นอน จับตาวันนี้รมช.คลังนำทีมแถลงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยอสังหา
หุ้นเด่นวันนี้
– บมจ. นีโอ คอร์ปอเรท เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคและบริโภค หมวดของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “NEO” ในวันที่ 9 เมษายน 2567 ราคา IPO หุ้นละ 39 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 3,042 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 11,700 ล้านบาท
– TAN (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 21.20 บาท บริษัทวางเป้าหมายรายได้เติบโต +20%YoY ทะลุ 1.7 พันล้านบาท ในปี 67 จากการเพิ่มขึ้นของ SSSG (ตั้งเป้า SSSG +10%) และยอดขายจากสาขาใหม่ทั้งในและต่างประเทศ (เปิดเพิ่ม 23 สาขาของทุกแบรนด์ *ปัจจุบัน 130 สาขา) นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่ส่งเสริมจากการออก Collection ใหม่ ปรับรูปแบบ Concept Store และเพิ่มแบรนด์แฟชั่นเข้ามาเสริมแกร่งพอร์ตโฟลิโอ รวมถึงขยายธุรกิจไปสู่กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม โดยคาดว่ากลุ่มธุรกิจที่จะเติบโตเด่นในปีนี้ คือ HARNN ด้วยการจับมือพันธมิตรจะเน้นรุกตลาดในประเทศจีน ฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวันในช่องทางออฟไลน์ จากปัจจุบันสินค้าได้รับความนิยมขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ Tmall Global ทั้งนี้กลุ่มบริษัทฯ เตรียมส่งออกผลิตภัณฑ์แบรนด์ HARNN ล็อตแรกไปยังประเทศจีน และมีแผนเปิดร้าน HARNN Flagship Store สาขาแรกในเมืองหางโจวภายใน 3Q67 โดยวางเป้าหมายรายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 25% ภายใน 3 ปี
– BA (กสิกรไทย) ราคาพืนฐาน 21.70บาท คาดแนวโน้มของกำไรปกติปี 2567 จะเติบโตขึ้น 45% YoY เป็น 2.4 พันลบ. หนุนโดยสนามบินสมุยมียอด trafficที่เติบโตระดับเลขสองหลัก และมากกว่า pre-covidlevelการปรับเส้นทางการบินช่วยให้ค่าโดยสารเฉลี่ยสูงขึ้น ขณะที่ต้นทุนค่าน้ำมันเครื่องบิน (Jet fuel)ปรับเพิ่มขึ้นเพียง 6% YTD เป็น US$100-102/bbl ซึ่งน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ปรับเพิ่มขึ้นแล้ว 17%YTDนอกจากนี้นายกฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสนามบินสมุยเตรียมขยายรันเวย์ คาดเสร็จในต้นปีหน้า สามารถรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ ทั้ง Airbus 320 และ Boeing 737 และพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น สอดคล้องกับแผนของ BAที่จะเพิ่มจำนวน Flightบินไปลงที่สมุยเป็น 70 เที่ยวบินจาก 50เที่ยวบินต่อวัน ขณะเดียวกัน BAยังถือหุ้นในโครงการสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกอีก 40%ซึ่งจะได้ประโยชน์จากการจัดตั้ง entertainment complex ที่จังหวัดระยองที่ช่วยให้ราคาหุ้นมีโอกาสถูก rerate ไปซื้อขายบน P/E ที่สูงกว่าปัจจุบันที่ระดับ 15x
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 เม.ย. 67)
Tags: SET, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย