บรรยากาศการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 พรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นไปอย่างคึกคัก โดยบรรดาแกนนำ สมาชิกพรรค และตัวแทนพรรคประจำจังหวัดต่างๆ ทยอยเดินทางมาตั้งแต่ช่วงเช้า
พร้อมเปิดคลิปวิดีโอ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย โดยแสดงความเชื่อมั่นในตัวของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีในการบริหารประเทศ รวมทั้งมั่นใจน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพราะมี DNA พ่อแม่ในตัว เชื่อว่าทำได้ดีกว่าตนเอง
นอกจากนี้ เนื้อหาบางส่วน ยังระบุว่า ภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่ 2540 ส่งผลให้พรรคการเมืองเก่าๆ ปรับตัวไม่ทัน ตนได้ตั้งพรรคไทยรักไทยขึ้นมา เป็นพรรคที่เข้ามา Reform ประเทศ เป็นผู้นำเปลี่ยนแปลงและกระจายอำนาจ ผ่านนโยบายกองทุนหมู่บ้าน และ 30 บาทรักษาทุกโรค และสิ่งที่พรรคเพื่อไทยกำลังทำเรื่องนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ถือเป็นเรื่องใหม่ และวันนี้เราไม่อยู่กับเรื่องโบราณแน่นอน เราต้องปรับตัวและเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
นายทักษิณ ยังได้แสดงความมั่นใจในตัวนายเศรษฐา ว่าจะสามารถนำพาประเทศได้ เพราะเป็นนักบริหารและมีประสบการณ์ และเหมาะกับช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างการเมืองที่มีหลายพรรคแบบนี้ นายกรัฐมนตรีน่าจะทำได้ดี เพราะมีประสบการณ์ พร้อมทั้งมั่นใจการนำพรรคเพื่อไทยของ น.ส.แพทองธาร
“ผมมั่นใจว่า คุณอิ๊งสามารถนำทีมพลิกเกมส์ได้ไม่ยาก คือ เป็นดีเอ็นเอระหว่างผมกับคุณหญิงผสมเป็นคุณอิ๊ง เขาเอาส่วนเข้มแข็ง อดทน เด็ดขาดมาจากคุณหญิง แต่เขาเอาส่วนพบปะผู้คน เข้าใจการเมืองแบบผม และเรียนรู้จากพ่อจากแม่ เพราะเป็นลูกคนเล็ก ผมเชื่อว่า เขาเป็นผู้นำที่ดีได้ ไม่ใช่มาเชียร์ลูกนะ ในเมื่อผมทำได้ ดีเอ็นเอผมก็ต้องทำได้ และเขามีดีเอ็นเอแม่ด้วย เขาต้องทำได้ดีกว่าผมด้วย” นายทักษิณ กล่าว
จากนั้น นายเศรษฐา ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษว่า ในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย เป็นน้องใหม่ที่เข้ามาเพียง 13 เดือน ได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นจากคนในพรรคอย่างอบอุ่น จริงใจ และได้รับคำแนะนำที่ดีมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการเรียนรู้เรื่องใหม่ในอายุ 60 ปี ไม่ใช่เรื่องง่าย
พร้อมระบุว่า ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยแพ้เลือกตั้ง พูดแบบนี้อาจฟังแล้วบีบหัวใจ แต่เป็นความจริง ในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทยและแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น รู้สึกเจ็บปวด แต่ยืนยันว่าเราจะไม่แพ้ตลอดกาล การก้าวเข้ามาในจุดนี้ มีเรื่องเดียวที่ปรารถนาคือการนำชัยชนะมาให้พรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งต่อไป และจะไม่มีอะไรมาทำให้ตนไม่สามารถคว้าชัยชนะนี้ได้
“ผมเป็นคนไม่แพ้ตลอดกาล ผมเป็นนายกรัฐมนตรีช่วงเปลี่ยนผ่าน ไม่มีอะไรเหมาะสมเท่ากับคำนี้ ผมไม่ใช่คนอายุน้อย ชีวิตผมครบหมดทุกอย่าง ไม่ว่าเป็นเรื่องครอบครัว และชีวิตการทำงาน แต่ผมก้าวตรงนี้ เรื่องเดียวที่ปรารถนาในชีวิต คือ ต้องนำชัยชนะกลับมายังพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ผมบอกกับทุกคนว่า อย่างเดียวในชีวิต ผมต้องชนะการเลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ จะทุ่มเทกายและใจ ในอีก 3 ปีครึ่งข้างหน้าไปถึงจุดนั้นให้ได้ เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านที่ดีให้ได้” นายเศรษฐา กล่าว
นายเศรษฐ กล่าวว่า เรามาร่วมในภารกิจที่ยิ่งใหญ่ ด้วย 141 เสียงจาก 500 เสียง เราจะมีเพิ่มขึ้นอีกอย่างแน่นอน เพราะเรามีหัวหน้าพรรคที่มีความมุ่งมั่น มีผู้อาวุโสในพรรคที่ช่วยประคอง มีคนรุ่นใหม่ที่พร้อมแสดงศักยภาพ และมีผู้ก่อตั้งซึ่งเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมีมา
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเองมีจุดประสงค์เดียวในชีวิต คือการชนะการเลือกตั้งครั้งต่อไป องค์ประกอบเหล่านี้เพียงพอหรือไม่ที่จะพาทุกท่านใช้ข้างหน้าได้ ขอให้มั่นใจว่านายกรัฐมนตรีคนนี้ ตลอดระยะเวลาอีก 3 ปีครึ่ง ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดเล็ก ๆ เราจะทำงานหนัก อย่างต่อเนื่อง รับฟังประชาชนทุกคน และตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนทุกคน
- “อุ๊งอิ๊ง” ยันขับเคลื่อนนโยบายสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง
ด้าน น.ส.แพทองธาร กล่าวถึงภารกิจต่อไปของพรรคเพื่อไทย คือ การเป็นพรรคที่เร็วขึ้น ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ดีขึ้น พรรคเพื่อไทยกำลังเปลี่ยนแปลงจากข้างใน ด้วยการเติมคนใหม่เข้ามาทำงานเติมองค์ความรู้ใหม่ สร้างการบริหารงานที่เร็วขึ้น เพื่อให้พรรคเพื่อไทยอยู่คู่กับประเทศไทยตลอดไป ไม่ว่าหัวหน้าพรรคจะเปลี่ยนไปอีกกี่คน บริบทประเทศในอนาคตจะเป็นอย่างไร พรรคเพื่อไทยจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ ให้กับประเทศไทยได้เสมอ
พร้อมย้ำว่า พรรคเพื่อไทยไม่ใช่พรรคอนุรักษ์นิยมใหม่ เพราะ DNA ของเราคือการเปลี่ยนแปลง ทุกครั้งที่เป็นรัฐบาล เราจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ประเทศไทย เช่น ในอดีต มี 30 บาท รักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน ฯลฯ และปัจจุบัน นโยบายที่สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง คือ โครงการดิจิทัลวอลเล็ต และนโยบายซอฟท์พาวเวอร์ เราคือพรรคที่มาปฏิรูป ทำให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้าด้วยนโยบาย โดยมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
“หลังงบประมาณผ่านแล้ว เชื่อมั่นว่า รัฐบาลคุณเศรษฐา จากที่วิ่งเร็วอยู่แล้ว จะเร็วขึ้นอีก หลายนโยบายที่เคยติดขัดเพราะงบประมาณ จากนี้จะผ่านฉลุย หลายนโยบายจะสำเร็จได้เห็นผลเร็วๆ นี้แน่นอน และพบกับการสรุปผลงานของ รัฐบาลเพื่อไทยที่ไม่ต้องรอ 10 เดือนในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้” น.ส.แพทองธาร กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 เม.ย. 67)
Tags: ทักษิณ ชินวัตร, พรรคเพื่อไทย, อุ๊งอิ๊ง, เศรษฐา ทวีสิน, แพทองธาร ชินวัตร