สาดฉ่ำ! สงกรานต์ปี 67 คึกคัก คาดเงินสะพัด 1.28 แสนลบ. สูงสุดใน 5 ปี

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผย “พฤติกรรมในการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงสงกรานต์ปี 2567” ว่า บรรยากาศสงกรานต์ในปีนี้คึกคักมากกว่าปีที่แล้ว ปัจจัยจากเมืองท่องเที่ยวเมืองหลักที่มีการจัดเทศกาลสงกรานต์ และนักท่องเที่ยวต่างชาติหนุนเป็นหลัก

จากการสำรวจ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มองว่าสงกรานต์ปีนี้จะคึกคักเหมือนปีที่แล้ว การใช้จ่ายจะใกล้เคียงกับปีที่แล้ว เป็นการจับจ่ายใช้สอยแบบระมัดระวัง เพราะเศรษฐกิจสภาพคล่องยังไม่ดี โดยกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 67.6% มองว่าบรรยากาศของเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้จะสนุกสนานเหมือนเดิม ส่วนอีก 24% มองว่าจะสนุกสนานมากกว่าเดิม ซึ่งต่างจากปี 66 ที่ส่วนใหญ่ 45.1% มองว่าจะสนุกสนานมากกว่าเดิม สะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนมองว่าปีที่แล้วเต็มที่ คึกคัก เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างโดดเด่นมากกว่า

“พฤติกรรมของผู้บริโภคในปีนี้ เซอร์ไพรส์พอสมควร เนื่องจากคิดว่าปีนี้ คนจะใช้จ่ายแบบพร้อมจ่ายมากขึ้น แต่กลุ่มตัวอย่างกลับบอกว่าจะใช้จ่ายใกล้เคียงเดิม เนื่องจากบรรยากาศเศรษฐกิจถูกกัดกร่อนมาตั้งแต่ต้นปี ยังมีภาพของยอดขายต่างจังหวัดไม่กระเตื้อง แม้การท่องเที่ยวจะฟื้น แต่เป็นการท่องเที่ยวกระจุกในหัวเมืองใหญ่ ขณะที่การส่งออกที่เริ่มฟื้นก็ยังไม่กระจายตัวไปยังประชาชน ราคาพืชผลทางการเกษตรดีเฉพาะบางกลุ่มเท่านั้น ยังมีปัญหาภัยแล้ง รายได้เกษตรกรยังติดลบ” นายธนวรรธน์ กล่าว

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า บรรยากาศในปีนี้ยังใช้ได้ คนมีการวางแผนไปเที่ยว มูลค่าการใช้จ่ายมีสัดส่วนใกล้เคียงกับปีก่อน โดยคาดเงินสะพัดช่วงเทศกาลสงกรานต์ (จากคนไทย) 128,834.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 66 ที่ 2.9% ซึ่งถือว่าเป็นการขยายตัวที่ไม่สูง เนื่องจากบรรยากาศทางเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจยังไม่ดี

“การจับจ่ายใช้สอยของปีนี้ มีมูลค่าสูงสุดในรอบ 5 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 63 แต่ยังไม่สามารถทำลายสถิติในปี 62 ได้ ที่มีมูลค่าการใช้จ่าย 135,837.56 ล้านบาท ซึ่งตอนแรกคาดว่าปีนี้จะมีเงินสะพัดทะลุ 130,000 ล้านบาท ใกล้เคียงปี 61 คือ 132,163.87 ล้านบาท แต่ไปไม่ถึง เพราะการระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย เนื่องจากประชาชนยังมองว่าเศรษฐกิจไทยไม่ดี โดยกลุ่มตัวอย่าง 65.3% มองว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะโตต่ำเพียง 2.01-2.50% เท่านั้น” นายธนวรรธน์ กล่าว

อย่างไรก็ดี แม้ว่าประชาชนทั่วไประมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย แต่ภาคเอกชนมองว่าการจัดงานจะคึกคักมากขึ้น มีงานรื่นเริงมากขึ้น จากการสนับสนุนของภาครัฐ ดังนั้น เชื่อว่าในช่วงสงกรานต์ มูลค่าการจับจ่ายใช้สอยมีโอกาสใกล้เคียง 130,000 ล้านบาทได้ เนื่องจากมีแรงพยุงให้คนไม่จ่าย เพราะมีงานรื่นเริง

ส่วนความคึกคักที่จะมากขึ้นนั้น มองว่าส่วนใหญ่จะมาจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยปีนี้สงกรานต์ได้ขึ้นนทะเบียนเป็นมรดกโลก และรัฐบาลไทยส่งเสริมการท่องเที่ยว การตลาด และช่วงหลังคนนิยมมาเที่ยวสงกรานต์ในไทยมากขึ้น ทำให้คาดว่าปีนี้จะกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเข้าไทยมากขึ้น

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าช่วงสงกรานต์ 5 วัน (12-16 เม.ย.) จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 465,383 คน คาดสร้างรายได้ 11,802.25 ล้านบาท สำหรับค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 5,072.06 บาท โดยหากรวมเม็ดเงินหมุนเวียนของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติ ในช่วงสงกรานต์ 5 วัน จะมีมูลค่า 140,636.2 ล้านบาท ส่งผลให้ GDP เพิ่มขึ้น 0.79%

แต่หากเป็นช่วงสงกรานต์ รวมตลอดทั้ง 21 วัน (1-21 เม.ย.) จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 1,954,607 คน หรือเฉลี่ย 600,000 คนต่อสัปดาห์ คาดสร้างรายได้ 69,397.20 ล้านบาท โดยหากรวมเม็ดเงินหมุนเวียนของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติ ในช่วงสงกรานต์ 21 วัน จะมีมูลค่า 198,834.2 ล้านบาท ส่งผลให้ GDP เพิ่มขึ้น 1.11%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 เม.ย. 67)

Tags: , , , , ,
Back to Top