“เศรษฐา” ย้ำจากปากไม่เกิน 2 ปีเห็น “สึนามิลงทุน” ลั่นเป็นนายกฯ ตัวจริง-เสียงจริง

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ลุกขึ้นชี้แจงในอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 แบบไม่ลงมติเป็นครั้งที่ 2 ของวันนี้ ยืนยันว่าไม่ได้ไปไหน ย้ายที่ทำงานจากทำเนียบรัฐบาลมาอยู่ที่สภาฯ และนั่งทำงานอยู่ห้องทำงานหลังบัลลังก์ และคอยฟังการอภิปรายไปด้วย หากช่วงไหนที่คำแนะนำ หรือข้อคิดเห็นของสมาชิกมีประโยชน์ก็จะจดไว้ ซึ่งสิ่งไหนที่อยากให้ความกระจ่างก็จะออกมาตอบคำถามนั้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติ ว่า ทุกครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศก็เป็นการเปิดโอกาส สร้างการลงทุน และกระตุ้นเศรษฐกิจ มั่นใจว่าผลก็จะตามมา

“ไม่มีหรอก ที่นายกฯ จะบินไปเหมือนแมลงวัน ขณะเดียวกัน ก็ไม่อยากเห็นฝ่ายค้านเป็นแมลงหวี่ ซึ่งจ้องจะเล่นแต่การเมือง ทั้งๆ ที่รัฐบาลก็พยายามเดินหน้าอย่างเต็มที่ ในการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ เพื่อเป็นประโยชน์กับประชาชน” นายเศรษฐา กล่าว

พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีเรื่องทุจริตคอรัปชัน แต่ถ้ามีก็ขอให้นำข้อมูล และหลักฐานมา ซึ่งยินดีที่จะโต้แย้งและให้ความกระจ่างได้

ทั้งนี้ ในเรื่องของการลงทุนนั้น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ให้ผู้แทนการค้าไทย และเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ชี้แจงผลสำเร็จอย่างชัดเจนไปแล้ว โดยที่การติดตามงานต่อไป จะมีทูตแต่ละประเทศที่ตนได้เดินทางไป ติดตามงานให้และจะมีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง

“เรื่องดึงดูดนักลงทุนเป็นเรื่องที่สำคัญ ไม่ใช่แค่เรื่องดึงเม็ดเงินเข้ามาเพียงอย่างเดียว แต่จะมีสิ่งที่ตามมาก็คือ การเพิ่มทักษะ หรือพัฒนาทักษะ สร้างเด็กจบใหม่ หรือวิศวกรที่ต้องมีการปรับตัว ให้เข้ากับอุตสาหกรรมที่มีผลกำไรสูง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องใส่ไปในข้อตกลงในการลงทุนด้วย ทำให้แรงงานเหล่านี้ก้าวเข้าสู่รายได้ที่เพิ่มขึ้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว

 

  • อดใจรอไม่เกิน 2 ปี ได้เห็น “สึนามิแห่งการลงทุน”

ส่วนที่มีการวิจารณ์ว่ายังไม่เห็นเม็ดเงินเข้ามาลงทุนในตลาดนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากทำงานจริงๆ ก็จะต้องรู้ว่าคนจะลงทุนหลักแสนล้าน ในระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา ต้องใช้เวลาเวลาบ้าง อย่างไรก็ตาม สัญญาณที่เห็นมาขณะนี้เป็นสัญญาบวก อีกทั้งในไตรมาส 4 เราพบตัวเลขที่ชัดเจนที่มีหลายประเทศสนใจมาลงทุนในประเทศไทย พบว่า มีเม็ดเงินเพิ่มมากขึ้น 2.5 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลขที่พิสูจน์ได้

“ขณะนี้ มีตัวเลขคำขอการลงทุนเข้ามาแล้ว 5.58 แสนล้านบาท และเป็นตัวเลขที่ยื่นแผนเข้ามาแล้ว และยังมีอีกหลายบริษัทที่กำลังพูดคุย ไม่ใช่ตัวเลขที่จับต้องไม่ได้ เพราะฉะนั้นขอให้อดใจอีก 2 ปีข้างหน้า จะเห็นตัวเลขเงินลงทุนเข้ามาประเทศไทยอย่างมหาศาล และขอใช้คำว่า “สึนามิแห่งการลงทุน” ซึ่งผมมั่นใจ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ส่วนที่บอกว่ารัฐบาลมองเศรษฐกิจในประเทศอยู่ในภาวะวิกฤติ แต่กลับไปเชิญชวนต่างชาติเข้ามาลงทุนนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องที่ตนไปโฆษณาประเทศ กับบอกว่าเศรษฐกิจประเทศวิกฤต เป็นคนละเรื่องกัน เป็นเรื่องที่ต้องโต้เถียงกัน แต่เรื่องที่ไม่ต้องเถียงกัน ก็คือเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจ และเชื่อว่าขณะนี้ประเทศมาถูกทางแล้ว

การออกไปเชื้อเชิญให้นักธุรกิจต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทย จะต้องให้พวกเขาเหล่านั้นรู้ศักยภาพของเราก่อน เพราะถ้าไม่ออกไปเลย พวกเขาจะทราบได้อย่างไรว่าประเทศไทยมีศักยภาพมาก แต่สิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด คือ จุดยืนของประเทศไทย ที่มีความเป็นกลาง ทำให้หลายๆ ประเทศมีความสบายใจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และแม้จะไม่เชื่อตน แต่ขอให้เชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศ

 

  • ลั่นเป็นนายกฯ “ตัวจริง-เสียงจริง”

ส่วนที่กล่าวหาว่า รมว.คลัง เป็นรัฐมนตรีที่โลกเซ็ง คิดว่าไม่จริง โดยมั่นใจว่าจะเป็น รมว.คลัง ที่แก้จนให้กับประชาชน

“ผมขอฝากไว้นิดหนึ่งว่า อย่าเป็นฝ่ายค้านที่ทำให้โลกงง เพราะวันหนึ่งก็จะเป็นฝ่ายค้าน แต่อีกวันก็มีข่าวว่าจะขอเข้าร่วมรัฐบาล ก็กลัวว่าพี่น้องประชาชนจะงงมากกว่า” นายเศรษฐา กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวในตอนท้ายว่าขอบคุณฝ่ายค้านสำหรับคำแนะนำ และยืนยันว่าตนเป็นนายกฯ ตัวจริง เสียงจริง และเป็นรัฐบาลเพื่อประชาชน

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 เม.ย. 67)

Tags: , , ,
Back to Top