ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าลบในวันนี้ (3 เม.ย.) โดยเคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวลดลงเมื่อวันอังคารที่ 2 เม.ย. โดยหุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ปรับตัวลดลงจากความวิตกกังวลเรื่องอุปสงค์
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ระดับ 39,428.58 จุด ร่วงลง 410.33 จุด หรือ -1.03% ขณะที่ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,067.46 จุด ลดลง 7.50 จุด หรือ -0.24% ส่วนดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,806.29 จุด ลดลง 125.23 จุด หรือ -0.74%
หุ้นบีวายดี (BYD) ปรับตัวลดลง 1.5% หลังบริษัทบีวายดีระบุว่า ยอดขายไตรมาสแรกของปีนี้ลดลง 43% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส
เทสลาเปิดเผยว่า ยอดส่งมอบรถปรับตัวลดลง 8.5% ในไตรมาส 1/2567 เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่งผลให้หุ้นเทสลาร่วงลง 5% เมื่อวันอังคาร
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้ โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,170.24 จุด ลดลง 396.61 จุด หรือ -1.00%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,205.81 จุด ลดลง 37.96 จุด หรือ -0.72% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,240.45 จุด ลดลง 156.38 จุด หรือ -0.95%
ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยไฉซินและเอสแอนด์พี โกลบอลระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีนขยายตัวรวดเร็วขึ้นในเดือนมี.ค. ขณะที่ธุรกิจใหม่ ๆ ในภาคบริการมีจำนวนเพิ่มขึ้นในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 3 เดือน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน
ผลสำรวจระบุว่า ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนมี.ค.ของจีนเพิ่มขึ้นแตะระดับ 52.7 จากระดับ 52.5 ในเดือนก.พ. โดยดัชนีที่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคบริการของจีนมีการขยายตัว และทำสถิติขยายตัวติดต่อกันยาวนานถึง 15 เดือน
ปัจจัยที่ทำให้ดัชนี PMI ภาคบริการของจีนขยายตัวอย่างต่อเนื่องในเดือนมี.ค.นั้น มาจากการฟื้นตัวของอุปสงค์และยอดสั่งซื้อใหม่ที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งธุรกิจใหม่ ๆ ในภาคบริการที่มีการขยายตัวรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2566
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 เม.ย. 67)
Tags: ตลาดหุ้นเอเชีย